บัวขาว บัญชาเมฆ

ผู้เสียหายโผล่อีก! "ผู้จัดการบัวขาว" แจงชัดกรณีโดนเบี้ยวค่าตัวยอดทะลุเกือบ 3 ล้าน

จากกรณีที่กำลัง เป็นประเด็นร้อนในโลกอินเตอร์เน็ตเมื่อ “ดำดอทคอม” บัวขาว บัญชาเมฆ ยอดกำปั้นขวัญใจคนไทย ออกมาทวงค่าตัว 2.2 ล้านบาท ในการเดินทางไปชกรายการ World Fight Tournament ที่ประเทศกัมพูชา

โดยในไฟต์ดังกล่าว นักชกคนไทยวัย 40 ปี ขึ้นสังเวียนเอาชนะคะแนน ดมิทรี วารัตส์ นักชกชาวเบลารุส ที่สนามกีฬาแห่งชาติ มรดก เตโช, กัมพูชา เมื่อวันพุธที่ 6 ก.ค. ปีที่ผ่านมา สร้างความประทับใจให้กับแฟนๆ เจ้าถิ่นเป็นอย่างมาก

บัวขาว บัญชาเมฆ โดนเบี้ยวค่าตัวยอดทะลุเกือบ 3 ล้าน

อย่างไรก็แล้วแต่หลังการชกจบลง

ปรากฏว่าทางฝ่ายจัด กลับไม่จ่ายค่าตัวที่เหลือ และก็ได้หนีหายไป ทำให้ทาง บัวขาว บัญชาเมฆ ออกมาโพสต์ว่า ไม่ได้มีปัญหากับทางประเทศกัมพูชา ก็แค่ต้องการวอนให้ผู้ใหญ่ในแวดวงมวย ของกัมพูชา เมตตาช่วยติดตามค่าตัว ที่ไปต่อยที่กัมพูชาให้ด้วย

มีข้อมูลล่าสุดจาก ธีรวัฒน์ ยิ้วยิ้ม ผู้จัดการของ บัวขาว บัญชาเฆม ว่า “หลังการชกจบลง เขาก็หายตัวไปเลย แล้วก็ถึงในขณะนี้มีผู้ที่ โดนเบี้ยวจ่าย จากรายการดังกล่าว ออกมาเพิ่มขึ้นหลายราย ไล่ตั้งแต่ฝ่ายออร์แกไนซ์จัดงาน, พิธีกร, ช่างภาพ, ค่าโรงแรงที่พัก รวมไปถึงคนขับรถรับส่ง”

“ซึ่งถึงตอนนี้ยอดความเสียหาย เพิ่มขึ้นเป็น 2.7 ล้านบาทเข้าไปแล้ว และยังมีอีกหลายคน ที่ยังไม่กล้าออกมาเปิดเผย ข้อแรกอยากให้ แฟนมวยชาวไทย รู้ว่าทาง บัวขาว ไม่ได้มีปัญหา กับประเทศกัมพูชาแต่อย่างใด”

“เพราะผู้ที่เป็นหัวเรือใหญ่ สำหรับการจัดงานเป็นคนไทย ที่ไปอาศัยอยู่ในกัมพูชา เป็นเวลานานกว่า 20 ปี ซึ่งคงจะ รู้จักกับผู้ใหญ่ ในวงการมวยของที่โน่นหลายราย จึงต้องการวอนผู้ใหญ่ ในแวดวงมวยบ้านเขา ช่วยตาม ให้ก็แค่นั้น” ผู้จัดการยอดมวยดัง เปิดใจ

ผู้จัดการบัวขาว แจงชัดกรณีโดนเบี้ยว

ตั้งค่าหัวแล้ว “รองปธ.มวยกัมพูชา” เดือดลั่นคนใดคว่ำ “บัวขาว” รับโบนัสไปเลย

เป็นประเด็นเดือด อย่างต่อเนื่องกับการที่ ประเทศกัมพูชา เจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2023 ออกมาประกาศว่า จะไม่ขอใช้ชื่อ “มวยไทย” สำหรับเพื่อการแข่งขันหนนี้ โดยจะใช้ชื่อว่า “กุน แขมร์” ที่ถือเป็น กีฬาประจำชาติของพวกเขาแทน

ซึ่งประเด็นนี้นักข่าวได้สัมภาษณ์ “ดำดอตคอม” บัวขาว บัญชาเมฆ นักชกมหาชนขวัญใจชาวไทย ที่เดินทางไปร่วมเปิดตัวภาพยนตร์ Marvel Studios’ Ant-Man and The Wasp: Quantumania ซึ่งจัดขึ้นที่มหานคร สกายวอล์ค คิง เพาเวอร์ มหานคร

โดย กำปั้นวัย 40 ปี ได้กล่าวว่า “เฮ้ย! พูดแล้วของขึ้น มีไฟต์ไหมเนี่ย (หัวเราะ) เขาก็มีสิทธิ์ของเขา เราบอกอะไรไม่ได้ มันเป็นสิทธิ์ของเขาในการ เป็นเจ้าภาพ ระดับเอเชียเราไม่ต้องกล่าวถึง เราไปกล่าวถึงโอลิมปิก”

“มันก็เป็นสิทธิ์ของเขา เราไม่เอ่ยถึง อัปทูยูจะเอาไปไหนก็เอาไปเลย แต่ของเราออริจินอล ไทยแลนด์ เบอร์ 1 อยู่แล้ว อย่าไปฟัง อย่าไปซีเรียส ของเรามันดีอยู่แล้ว”

ซึ่งหลังคลิปการสัมภาษณ์นี้ ได้ถูกเผยแพร่ออกไป ยังประเทศเพื่อนบ้าน ก็สร้างความไม่พอใจ ให้กับแฟนมวยชาวเขมร เป็นอย่างยิ่ง ถึงขนาดที่ นายสเร จันทร รองประธานกิตติมศักดิ์สหพันธ์มวยกัมพูชา ออกมาประกาศหมายหัว บัวขาว บัญชาเมฆ ผ่านโลกออนไลน์

“ประกาศจาก สเร จันทร ในนามของรองประธานกิตติมศักดิ์สหพันธ์มวยกัมพูชา ผมเชื่อว่ามีนักมวยกัมพูชา ที่แกร่ง แล้วก็สามารถเอาชนะ บัวขาว ได้ ซึ่งหากคนไหน เสนอตัวแล้วก็สามารถเอาชนะเขาได้ ผมจะมอบบ้านให้ 1 หลัง, รถหรู 1 คัน รวมทั้งให้เงินสำหรับใช้จ่าย เป็นระยะเวลา 10 ปี”

“นี่คือกำลังใจ จากผมที่จะมอบให้ กับนักมวยเขมร ที่พร้อมสู้เพื่อแผ่นดินเกิดของเรา ผมรักกัมพูชา และก็ขอให้พี่น้องของเรา เชียร์นักมวยของเรา” ซึ่งงานนี้เรียกว่า เกิดกระแสดราม่าอย่างหนัก ที่ประเทศกัมพูชาตอนนี้

แจงชัดกรณีโดนเบี้ยว

ประวัติ บัวขาว บัญชาเมฆ นักมวยไทยขวัญใจชาวไทย ตำนานแชมป์ K-1

บัวขาว บัญชาเมฆ นักมวยไทยขวัญใจมหาชน ที่ผงาดครอบครองแชมป์มาแล้วทั้ง K-1, THAI FIGHT และ คุนหลุนไฟต์

ร้อยตรี สมบัติ บัญชาเมฆ คือชื่อจริงของยอดมวยไทย บัวขาว บัญชาเมฆ นักมวยไทย เชื้อสายกูย เกิดวันที่ 8 พ.ค. พ.ศ. 2525

บัวขาว เริ่มต้นชีวิตนักมวยตั้งแต่อายุ 8 ปี ที่จังหวัดสุรินทร์ พออายุได้ 15 ปี ก็ได้เข้ามาสังกัดค่าย ป.ประมุข โดยใช่ชื่อในการชกว่า ดำทมิฬ เกียรติอนันต์ เขาได้เข้ามาชกมวยไทย ในกรุงเทพ และก็ได้คว้าเข็มขัดแชมป์ มาครองหลายเส้น รวมถึงแชมป์เวทีสยามอ้อมน้อย รุ่นเฟเธอร์เวท, แชมป์ประเทศไทย รุ่นเฟเธอร์เวท แล้วก็แชมป์ที่ เวทีสยามอ้อมน้อย รุ่นไลท์เวท

ในปีพุทธศักราช 2545 บัวขาวได้ชนะเลิศมวยไทย มาราธอนโตโยต้า รุ่น 140 ปอนด์ ที่สนามมวยเวทีลุมพินี ชนะโคบายาชิ นักมวยชื่อดังจากญี่ปุ่น

กระทั่งในปีพ.ศ. 2547 บัวขาว ได้ไปชกที่ประเทศญี่ปุ่น ในรายการ K-1 World MAX 2004 ที่จัดขึ้นที่กรุงโตเกียว โดยการชกในรายการ K1 เป็นการต่อยแบบทัวร์นาเมนต์ แพ้คัดออก

โดยในรอบแรกบัวขาว เจอกับ จอห์น เวย์น พาร์ (John Wayne Parr) นักมวยไทยชาวออสเตรเลีย ในรอบที่สองพบกับ โคะฮิรุมาคิ ทากะยูกิ และก็ในรอบชิงชนะเลิศ เจอกับ มาซาโตะ แชมป์เก่าชาวญี่ปุ่น และบัวขาว ก็สามารถชนะมาได้แบบไม่ยากเย็น และเอาเข็มขัดแชมป์ K1 มาครองได้สำเร็จ

เกียรติประวัติ

1แชมป์ประเทศไทย รุ่นเฟเธอร์เวท (ที่สนามมวยลุมพินี) ปี 2544
2แชมป์ K-1 World MAX champion ปี 2004 และ 2006
3แชมป์ 2010 Shoot Boxing S-Cup World champion ปี 2553 คนไทยคนแรก และคนเดียวในประเทศไทย
4แชมป์ สภามวยไทยโลก ในพระบรมราชูปถัมภ์ WMC World champion ปี 2549, 2552, 2554, 2557
5แชมป์ สภามวยโลก WBC Muaythai Diamond World Championship ปี 2557
6แชมป์ ไหว้ครูมวยไทยสวยงาม สนามมวยลุมพินี ปี 2545
7ถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แชมป์มวยไทยไฟท์ ปี 2554, 2555
8ถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รางวัลนักกีฬาอาชีพดีเด่น ปี 2555
9ถ้วยพระราชทาน กษัตริย์อัลแบร์ตที่ 2 แห่งโมนาโค แชมป์ “มอนติคาโล ไฟต์ติง มาสเตอร์” ปี 2557

ทรงเบลล่า

อุ๊ย! "เบลล่า ราณี" ว่ายังไงบ้าง เจอซิลิโคลนเถื่อนแอบอ้างตั้งชื่อ ทรงเบลล่า?

เบลล่า ได้มีโอกาสออกมาจัดการประเด็นร้อนกับสื่อมวลชนในงาน แว่นท็อปเจริญ โครงการแว่นตาเพื่อพี่น้อง 3 จังหวัดชายแดนใต้ สำหรับ นางเอกซุปตาร์ ราณี แคมเปน หลังมีกระแสข่าวกรณี ซิลิโคนเถื่อน ใช้ชื่อเจ้าตัวไปแอบอ้างในประมาณว่า ทรงเบลล่า กระทั่งทำให้เกิดความเข้าใจผิดในหมู่คนทำศัลยกรรม

ซึ่งนอกจากนางเอกสาวจะออกมาพูดถึงความรู้สึกเกี่ยวกับประเด็นนี้ ให้บรรดาสื่อมวลชนได้ฟังแล้ว เจ้าตัว ก็ยังอัปเดตแพลนฉลองวาเลนไทน์ปี 2566 อีกด้วย

บริจาคเงิน 100,000 บาท ให้กับโรงเรียน ?

นานแล้วนะคะ คือ ถ้าหากใครบอกบุญมา มีโอกาสก็ทำค่ะ แต่สำหรับยอดนี้ เบล ทำให้โรงเรียนแม่ ซึ่งน้องๆเขายังไม่มีสนามฟุตซอล เบล ก็เลยเหมือนเป็นเจ้าภาพ (ยิ้ม) คือ ถ้าเบลมีกำลังช่วยได้ เบลก็จะช่วยเท่าที่มีกำลัง จริงๆ มันเป็นเหมือนเป้าหมายของเบลด้วยแหละ เรา มีทรัพย์ เรา ก็ส่งต่อช่วยเหลือผู้อื่น วัด โรงพยาบาล โรงเรียน ต่างๆ เท่าที่มีโอกาส ทำแล้วสบายใจค่ะ

โรงงานซิลิโคน เอาชื่อเราติดหน้ากล่อง แล้วก็ เป็นซิลิโคนที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ซิลิโคนทรงเบลล่า ?

อุ๊ย ต้องดูกันดีๆนะ ถ้าเกิดจะทำศัลยกรรม เรา จะต้องดูสถานที่ให้ปลอดภัย คือ… การทำให้ตนเองสวยขึ้นไม่ผิดนะคะ แต่ว่าเราจำเป็นต้องเช็กให้ดีๆด้วย เนื่องจาก มันเป็นเรื่องของความปลอดภัย

เบลล่า ราณี

มีชื่อเราไปเอี่ยวแบบนี้ ซีเรียสไหม ?

ยังไม่เห็นข่าวเลยคะ แต่ว่าถือได้ว่าคำชมละกันค่ะ (หัวเราะ) ดูดีๆนะคะ

เราเป็นห่วงไหม เพราะ บางเคส ก็มีผลข้างเคียง ?

เป็นกำลังใจให้นะคะ เบลก็ขอให้หายไวๆ

รู้สึกอย่างไรบ้าง ที่มีบางคนเอาหน้าเราไปเป็นแบบทำศัลยกรรม ?

ดีใจค่ะ เบล นับว่า นั่นเป็นการชื่นชมอย่างหนึ่ง เขา อยากมีหน้าเหมือนเราก็โอเค แต่ว่าในความเป็นจริงแล้ว ทุกคน ก็สามารถสวยได้ในแบบของตัวเองค่ะ

รู้สึกยังไงบ้าง ที่เราเป็นบล็อกยอดฮิต ?

ขอบคุณค่ะ แต่ก็จะต้องศึกษาข้อมูลดีๆด้วย อย่าเชื่ออะไรง่ายๆ

วาเลนไทน์ปีนี้ มีแพลนอะไรบ้าง ?

ไม่มีอะไรเลยค่ะ นับว่าเป็นหนึ่งวันทำงาน เป็นวันวันหนึ่ง (ยิ้ม) ก็รอดูละกันค่ะ ว่าจะเป็นอย่างไร แต่ว่าไม่เหงาค่ะ คนรอบข้างเติมเต็มความรักได้ดีมากๆอยู่แล้ว ครอบครัว เพื่อนฝูง น้องหมาน้องแมว

โสดเหมือนเดิมไหม ?

โสดค่ะ สนิทค่ะ รอดูดอกไม้ก็ได้ค่ะ (หัวเราะ)

” เบลล่า ” ฉลองตรุษจีนกับครอบครัว น่ารักสอนยายโพสท่า Y2K

ถึงจะโสด แต่ว่าบอกเลยว่า นางเอกสาว ราณี แคมเปน ไม่มีเหงา เนื่องจากว่า ทั้งคิวงานที่แน่นทั้งปี แถมยังมีครอบครัวที่อยู่เคียงข้าง โดยยิ่งไปกว่านั้น แม่ปราณี ที่ตัวติดกับลูกสาวสุดที่รักตลอด

และก็ ล่าสุด ในตอนเทศกาลวันตรุษจีน กับภาพสุดอบอุ่นที่ เบลล่า ได้โพสต์ลงลงอินสตาแกรม ภาพที่อยู่พร้อมหน้าแม่ รวมทั้ง ญาติๆ เหมือนเช่นเคย

งานนี้ เบลล่า ยังกมือไหว่งามๆ เพราะว่า ได้รับซองอั่งเปาด้วย และก็ ความน่ารัก เมื่อ ราณี แคมเปน ได้สอนให้คุณยายทำท่าโพสถ่ายรูป Y2K ยกสองนิ้วขึ้นมาถ่ายรูปคู่หลานสาวคนสวย เป็นช็อตที่แฟนๆ เห็นแล้วต้องยิ้มตาม

โมเมนต์สุดอบอุ่นของบ้านเบลล่า ที่ช่างน่ารักเอ็นดูจริงๆ

ซิลิโคลนเถื่อนแอบอ้างตั้งชื่อ ทรงเบลล่า

สวยรวย ” เบลล่า ” เผยของขวัญจากแม่เป็นที่ดินริมโขง เรื่องหัวใจไม่โฟกัส

ราณี แคมเปน เผยแม่ซื้อที่ดินริมโขง 3 ไร่ ให้เป็นของขวัญ เรื่องหัวใจไม่โฟกัส ขอตัวเองรวยก่อน

นางเอกสาว ราณี แคมเปน เปิดใจกลางงาน Surprisingly Bata CinderBella ถึงของขวัญที่ดินริมโขง 3 ไร่ ที่คุณแม่ปราณี ซื้อให้ บอกเป็นที่ดินที่เคยดูกับแม่ ไว้นานแล้ว ถือว่าเป็นการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ หลายๆคน ยกให้เป็นเศรษฐินีด้านที่ดิน เจ้าตัว บอกมีพอประมาณ แต่ไม่ใช่เศรษฐี

“วันเกิดก่อนหน้าที่ผ่านมา ออกจะเรียบง่ายค่ะ ไปทำบุญกันพร้อมทั้งแฟนๆ มีฟู้ดทรัคร่วมรับประทานอาหารเบาๆ วันเกิดปีนี้ ไม่ได้ซื้ออะไรเป็นของขวัญให้ตัวเองเลย ในตอนนั้น ได้เดินทางไปญี่ปุ่น ก็ถือได้ว่าของขวัญ เป็นการได้พาแม่ท่องเที่ยวค่ะ”

“ของขวัญจากคุณแม่ เป็นที่ดินแม่ซื้อให้อยู่ที่นครพนม พึ่งจะซื้อเมื่อต้นเดือน แม่จะเซอร์ไพรส์ แต่เบลรู้ก่อน เนื่องจาก คุณแม่ให้เบลมาเซ็นเอกสาร”

“ที่ดิน เป็นที่ที่เคยไปดูด้วยกันกับแม่ เป็นที่ริมโขง ดูเอาไว้ว่ามันเหมาะสม ไม่ใหญ่เกิน ไม่เล็กเกินจนไป มูลค่าไม่ทราบเลย เนื่องจาก แม่เป็นคนเก็บเงินทุกบาท ได้เรื่องของการลงทุน รวมทั้ง ทรัพย์สิน”

“ยังไม่ได้คิดเลยว่า จะเอาไปทำอะไร เพราะ ช่วงแรกที่ดูไวตั้งใจไว้ว่า จะซื้อให้เป็นของขวัญให้กับแม่ แต่ว่าแม่มาชิงซื้อให้ก่อน ที่ดินไม่ใหญ่ค่ะ ราวๆ 3 ไร่ ไม่ได้เป็นเศรษฐีที่ดินนะคะ แต่ว่าคุณแม่จะเป็นคนดูแลทุกๆอย่างให้ ซื้อประกันต่างๆ แม่ดูแลให้หมด”

“บ้านใหม่ เบลซื้อให้แม่หลายปีแล้ว แถวละแวกเดิมค่ะ เพิ่งรีโนเวทเสร็จก็เลยได้ฤกษ์ย้าย กว่าจะสวยก็หมดไปเยอะแบบไม่ได้ตั้งใจ เบล ไม่ค่อยชอบบ้านที่ใหญ่มาก ห้องใหญ่สุด คือ ทำเป็นห้องแต่งตัวของเบลเอง ตอนแรกที่ยังไม่ได้ซื้อบ้าน คิดว่า จะซื้อโกดังไว้เก็บของ”

เรื่องคอมเมนต์ถูกใจแคปชั่นของ มิน พีชญา

“เรา แข่งกับเขาไม่ได้นะ เพราะว่า เขาเป็นเจ้าของหมู่บ้านนะคะ (หัวเราะ) ชื่นชมเขาค่ะ นิสัยดีมีที่ดิน แต่ว่าไม่ให้ใครนะคะ เพียงแค่มีเฉยๆ (ยิ้ม)”

” ขณะนี้ ทำงานทุกวันเลย เลือกที่ความสุข แล้วก็ ความสบายใจ ที่สำคัญเบลจำเป็นต้องรวยค่ะ (หัวเราะ)”

“ไม่ได้มีเวลาคุยกับใครเลย ตอนนี้จะต้องนอนก่อนค่ะ ยังคงคอนเซ็ปต์เดิมเลย ต้องหาเวลาให้ตนเองก่อน “

ดราม่าชุดไหว้

ดราม่าชุดไหว้ "ศาลพระพรหม" หลักหมื่น คนจีนจ่ายแพงจริงไหม แม่ค้าแจงเองมีอะไรบ้าง

ดราม่าชุดไหว้ เป็นเรื่องราวดราม่าในโลกออนไลน์ เมื่อมีผู้โพสต์คลิปเหตุการณ์ ในขณะที่ “นักท่องเที่ยวชาวจีน” กำลังซื้อดอกไม้และชุดบูชาไหว้ “ศาลพระพรหม” แยกราชประสงค์ ราคากว่า 10,000 บาท กระทั่งทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงราคาดังกล่าว ว่าขายแพงเกินไปไหม พร้อมตั้งคำถามว่าเป็นการเอาเปรียบ นักท่องเที่ยวหรือไม่

จากเรื่องดังกล่าว แม่ค้าขายดอกไม้และชุดบูชาที่ปรากฏในคลิป เล่าว่า เมื่อช่วงตรุษจีนก่อนหน้านี้ มีนักท่องเที่ยวคนจีนโดยประมาณ 10 คน มาสอบถามราคาดอกไม้และชุดบูชา โดยมีไกด์คนไทยช่วยแนะนำ ซึ่งแม่ค้าก็ได้อธิบายว่า มีดอกไม้และชุดบูชาจัดเป็นชุดหลากหลายราคาให้เลือก ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าว ก็ตัดสินใจซื้อชุดบูชา ราคา 1,200 บาท จำนวน 2 ชุด, ชุดบูชา ราคา 900 บาท จำนวน 2 ชุด และชุดบูชา ราคา 600 บาท 2 ชุด

ยิ่งกว่านั้น ยังมีนักท่องเที่ยว 4 คนในจำนวนนั้น อยากปล่อยนกเขา จึงซื้อนกเขาจากร้านค้าข้างๆคนละ 4 ตัว ราคาตัวละ 500 บาท รวมเงินที่นักเดินทางกลุ่มนี้จ่ายค่าดอกไม้, เครื่องบูชา รวมทั้งนกเขาให้กับแม่ค้า เป็นเงินทั้งสิ้น 13,400 บาท

ดราม่าชุดไหว้ ราคากว่า 10,000 บาท
สำหรับในวันที่เกิดเหตุนั้น ดราม่าชุดไหว้ ระหว่างที่มีการสนทนาซื้อขายดอกไม้และเครื่องบูชาอยู่

ก็มีชายคนหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่กรุ๊ปนักเดินทางดังกล่าว หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายคลิป เมื่อถามว่าถ่ายไปทำไม ชายคนดังกล่าวก็ไม่ได้ตอบอะไร กระทั่งมารู้อีกครั้งว่า คลิปดังกล่าว ได้ถูกโพสต์ลงในโลกโซเชียล กระทั่งทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่า แม่ค้าเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ทำให้ชื่อเสียงเสียหาย ที่สำคัญคือทำให้ชื่อเสียงของเมืองไทย ได้รับผลกระทบไปด้วย

“ยืนยันว่าตลอดเวลากว่า 30 ปีที่ขายของมา ไม่เคยเอาเปรียบนักท่องเที่ยว มีการแจ้งราคาให้ดูแคตตาล็อกดอกไม้และชุดบูชา ให้กับนักเดินทางทุกครั้ง เพื่อประกอบการตัดสินใจ” แม่ค้าขายดอกไม้และชุดบูชา กล่าว

ทางด้านไกด์นำเที่ยวรายหนึ่ง เผยถึงเรื่องราวดังกล่าวว่า หากวันไหนที่คนน้อย หรือวันนั้นมีดอกไม้ที่ดูสดเข้ามา ราคาจะขยับแพงขึ้นอีก รวมทั้งหากนักท่องเที่ยวบางคนเดินทางมาไหว้เอง ไม่ได้ผ่านกลุ่มทัวร์ ราคาที่คิดออกมาก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง

ในขณะที่ พลตำรวจตรี อภิชาติ สุริบุญญา รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เผยว่า ก่อนหน้าที่ผ่านมาได้มีการกำชับผู้ค้าอย่าเอาเปรียบนักท่องเที่ยว จะต้องชี้แจงราคาดอกไม้และเครื่องบูชา กับนักเดินทางทุกครั้ง มิเช่นนั้นจะดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งหลังจากที่สั่งย้ำไปก็ยังมิได้ มีการรับเรื่องร้องเรียนจากนักเดินทางแต่อย่างใด ซึ่งราคาดอกไม้และเครื่องบูชา ของร้านที่อยู่บริเวณ นอกศาลจะมีราคาสูงกว่า ร้านจำหน่ายในศาล ซึ่งเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม ประเด็นดังกล่าว ยังเป็นที่แย้งกันต่อในโลกออนไลน์ โดยบางส่วนเผยว่า เคยไปไหว้เช่นเดียวกันแต่ราคาไม่ถึงหลักหมื่น ในช่วงเวลาที่บางส่วนบอก หลักหมื่นก็มีเช่นกัน ซึ่งราคาของแต่ละร้านค้า ก็จะแตกต่างกัน แต่ว่าส่วนใหญ่ที่เห็นไปทางเดียวกันคือ ทุกร้านค้าควรจะขึ้นป้ายราคา บอกให้ชัดเจน เพื่อความชัวร์ที่สุด

ศาลพระพรหม ราคากว่า 10,000 บาท

แม่ค้า โต้ปม ดราม่าชุดไหว้ ชุดไหว้ศาลพระพรหม หลักหมื่น แจงวันเกิดเหตุ ทำไม่สบายใจ

แม่ค้า โต้ปม ราคาดอกไม้ หลักหมื่น หลังจากคลิปแชร์ว่อน นักท่องเที่ยวจีน เจอฟาดราคามหาโหด ชุดไหว้ ศาลพระพรหม บริเวณแยกราชประสงค์ แจงวันเกิดเหตุ

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 28 ม.ค. 2566 ที่ศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณ บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ผู้สื่อข่าวลงพื้นตรวจสอบข้อเท็จจริง แล้วก็ได้คุยกับแม่ค้า ที่ขายดอกไม้ด้านหน้าทางเข้า พระพรหมเอราวัณ หลังจากมีคลิปว่อนโลกโซเชียลมีเดียว่า นักเดินทางจีน มาไหว้ศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณ พบแม่ค้าไทยคิดราคาดอกไม้ สำหรับสักการะบูชาพระพรหมหลักหมื่น จึงเกิดเสียงวิจารณ์อย่างมาก

แม่ค้ารายหนึ่ง ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ตนเห็นคลิปดังกล่าว แล้วรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ เพราะเป็นคลิปที่เห็น เพียงแค่แง่มุมเดียว ตนจำเรื่องราวที่มีนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ มาไหว้สักการะบูชาพระพรหมได้ เกิดขึ้นในช่วงวันตรุษจีน เมื่อสัปดาห์ก่อน โดยเป็นนักท่องเที่ยวคนจีนมาไหว้ 7-8 คน มีไกด์รอนำเที่ยวและดูแลความสะดวกด้วย

แม่ค้า กล่าวต่อว่า ลักษณะของนักเดินทางกลุ่มนี้ ไม่ได้มาไหว้สักการะบูชาพระพรหมธรรมดา แต่มาแก้บนด้วย จึงได้บูชาหลายอย่าง ทั้งดอกไม้ ธูปเทียน หมากพูล ตุ๊กตานางกวัก ช้าง และก็ปล่อยนก ซึ่งราคาของสำหรับไหว้บูชาพระพรหม มีหลายราคาแล้วแต่ลูกค้าจะตัดสินใจ

ถามว่า เครื่องสักการะพระพรหมมีราคาถึงหลักหมื่นหรือเปล่า

แม่ค้าให้ข้อมูลว่า “มีถึงหลักหมื่น” ซึ่งเป็นราคาที่ลูกค้าพึงพอใจที่จะจ่าย ยกตัวอย่างเช่น นักท่องเที่ยวชาวจีนบางกรุ๊ป อยากจะซื้อรูปปั้นช้างมากราบไหว้ บางตัวราคาหลักหมื่น หลักแสน แล้วแต่แบบ แล้วแต่ขนาด ซึ่งลูกค้าก็อยากจะได้ตัวใหญ่ ราคาก็จะสูงมากขึ้น ซึ่งพวกเขาก็จะเข้าใจกันอยู่แล้ว

แม่ค้า กล่าวต่อว่า ดังนี้ ตนรู้สึกเสียใจที่มีชาวเน็ต แสดงความเห็นว่าแม่ค้าไทยเอาเปรียบนักเดินทาง รับรองว่า คลิปที่เผยแพร่ออกไป ทำให้แม่ค้าที่ขายของอยู่รอบๆดังกล่าว ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากว่ามันไม่เป็นความจริงเลย

มีรายงานว่า จุดที่ขายดอกไม้จะมีด้านนอกบริเวณทางเท้า และก็ด้านในรอบๆทางเข้าศาล ซึ่งทั้ง 2 จุด มีความแตกต่างกันเรื่องการติดป้ายาคา ด้านในศาลจะมีการติดป้ายราคาอย่างชัดเจน โดยดอกไม้เริ่มต้นตั้งแต่ 50 บาท ไปจนชุดละ 300 บาท

ด้าน นายกิตติภพ พงศ์พัทธ์พุทธิมา ไกด์ ที่พานักท่องเที่ยวคนจีน มากราบไหว้บูชาพระพรหม พูดว่า ก่อนหน้านี้ยังไม่เคยเจอเรื่องลูกทัวร์ถูกหลอก ซื้อดอกไม้ไหว้พระพรหมหลักหมื่นบาท

แต่ว่าบางคนก็ชอบจัดชุดใหญ่ หรือชอบมาแก้บน ก็จะจ่ายหนัก เพื่อแก้บนและไหว้ขอพรก็มี ซึ่งก็เป็นความพอใจของนักท่องเที่ยว แต่ในฐานะที่เป็นไกด์ ก็จะแนะนำให้นักท่องเที่ยวไปซื้อในศาล จะดีที่สุด ด้วยเหตุว่ามีราคาป้ายแปะบอกไว้ชัดเจน

ศิลปะ

คุยเรื่องเมืองและศิลปะ กับรองผู้ว่าฯ “ศานนท์ หวังสร้างบุญ”

Highlight เทศกาล ศิลปะ

Colorful Bangkok 2022 เทศกาลศิลปะ แสงสี แล้วก็ ดนตรีในกรุงเทพฯ จัดขึ้นในช่วงพ.ย. 2565 – มกราคม 2566 นับว่าเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “12 เทศกาลตลอดปีทั่วกรุงเทพฯ” มีเป้าหมายให้กรุงเทพฯ กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง พร้อมการกระตุ้นยอดขายให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ
ศิลปะไร้พรมแดน แล้วก็ ครอบคลุม ไปถึงงานสร้างสรรค์ที่หลากหลาย นั่นเป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่กรุงเทพฯ ต้องเก็บรวบรวม แล้วก็ ทำให้เข้าถึงทุกคนอย่างแท้จริง ซึ่งกรุงเทพฯ จำเป็นต้องต้องให้การส่งเสริม แล้วก็ สร้างความร่วมมืออย่างทั่วถึง พร้อมช่วยประชาสัมพันธ์งานต่างๆที่เกิดขึ้นในระหว่าง 3 เดือนของเทศกาลอย่างเต็มที่
หัวใจของ “Festival Economy” คือ ยกระดับอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับศิลปะ กับ สร้างเศรษฐกิจให้กับเนื้อเมือง หรือ เขตต่างๆของกรุงเทพฯ ซึ่งการจัดเทศกาลจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ตลอดถึงการต่อยอดเศรษฐกิจในด้านต่างๆ

“กรุงเทพมหานคร” ถือเป็นเมืองหลวงที่มีสีสันมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ทั้งยังในด้านอาหาร วัฒนธรรม แล้วก็ ศิลปะ ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาสัมผัสตลอดทั้งปี รวมทั้ง สร้างเม็ดเงินให้กับประเทศไทยอย่างมากมายมหาศาล แต่ว่าการระบาดของโรคโควิด-19 ก็ทำให้เมืองมากสีสันแห่งนี้ เงียบเหงาลงไปอย่างน่าเศร้า การทำให้กรุงเทพฯ กลับมามีชีวิตชีวาอีกรอบ

ก็เลยกลายเป็น “เป้าหมายสำคัญ” ของชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการคนล่าสุดของกรุงเทพฯ เกิดเป็นเทศกาล “Colorful Bangkok 2022” ที่จัดขึ้นในตอนพ.ย. 2565 – มกราคม 2566 ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “12 เทศกาลตลอดปีทั่วกรุงเทพฯ”

มีเทศกาลที่น่าสนใจตลอดทั้งปี เพื่อคนกรุงเทพฯ แล้วก็ นักท่องเที่ยว เหมือนกับการกระตุ้นยอดขายให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ

เทศกาล Colorful Bangkok 2022 เป็นความร่วมมือของเครือข่ายภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม รวมทั้ง ประชาชน ที่มาร่วมกันสร้างสรรค์งานศิลปะ ดนตรี แล้วก็ แสงสี เพื่อทำให้กรุงเทพฯ กลับมามีสีสัน และก็ ชีวิตชีวาอีกครั้ง

ซึ่งได้มีโอกาสพูดคุยกับ “ศานนท์ หวังสร้างบุญ” รองผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ผู้เป็นกำลังสำคัญของการจัดเทศกาลยิ่งใหญ่ ในช่วงปลายปีคราวนี้

Colorful Bangkok 2022 เทศกาลศิลปะ แสงสี

กรุงเทพฯ เมืองแห่งสีสัน

“เกิดจากความท้าทายหลายอย่าง อาทิเช่น พวกเรา เพิ่งผ่านวิกฤตโควิด-19 เราพึ่งจะเปิดประเทศ เป็นปีแรกที่เราจะได้ลอยกระทง เป็นปีแรกที่พวกเราจะได้ออกมาเจอหน้าคน รวมทั้ง เป็นปีแรกที่จะมีนักท่องเที่ยวเกิน 10 ล้านคน ผม คิดว่า ทุกคนพร้อมใจอยากจัดอะไรบางอย่าง

ดังนั้น หน้าที่เมือง คงจะไม่ใช่คนที่มาจัดอีกคนหนึ่ง แต่หน้าที่ของเมือง คงจะเป็นคนอำนวยความสะดวกมากกว่า เป็นคนดึงคนซ้ายมาเจอคนขวา ดึงคนหน้ามาเจอคนหลัง ดึงคนที่เก่งด้านไฟมาเจอคนเก่งดนตรี ดึงคนเก่งสถานที่มาเจอคนที่เก่งเรื่องการทำศิลปะ” ศานนท์ เริ่มอธิบาย

เทศกาล Colorful Bangkok 2022 คือเทศกาลศิลปะที่จัดครอบคลุมตลอดทั้ง 3 เดือน ระหว่างพ.ย. 2565 – มกราคม 2566 เพื่อเปิดพื้นที่สาธารณะ จัดกิจกรรมให้คนกรุงเทพฯ คนจากจังหวัดอื่น และก็ นักท่องเที่ยว ได้สัมผัสงานศิลปะหลากหลายรูปแบบ ชมแสงไฟตามสถานที่สำคัญทั่วทั้งเมือง รวมทั้ง สนุกสนานไปกับดนตรีที่จะจัดขึ้นในสวนสาธารณะของกรุงเทพฯ

ซึ่งถือเป็นการร่วมมือกันของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวพัน และ มี กทม. เป็นผู้ช่วยเหลือประสานงาน แล้วก็ ให้การสนับสนุน

“ผมว่า อันนี้คือบทบาทของ กรุงเทพมหานคร ซึ่งพวกเราก็ทำอย่างตลอด ตั้งแต่พฤศจิกายน เดือนธันวาคม มกราคม เรา มั่นใจว่า 3 เดือนนี้เป็น 3 เดือนที่สำคัญที่สุดของปี 2022 กระทั่งไปถึงต้นปี 2023 เพราะ เป็นปีหัวเลี้ยวหัวต่อที่พวกเราต้องดึงนักท่องเที่ยวให้ได้มากที่สุด แข่งกับเมืองอื่น

เพราะว่า กรุงเทพฯ เรา มีอะไรที่มีสีสัน และ คงไม่มีตอนไหนที่เมืองจะมีชีวิตชีวาได้เท่าตอน 3 เดือนนี้แล้ว” ศานนท์ กล่าว

ศิลปะ เชื่อมคน เชื่อมเมือง

ศิลปะไร้พรมแดน และก็ ครอบคลุม ไปถึงงานสร้างสรรค์ที่หลากหลาย เช่น จิตรกรรม กราฟิตี้ ร้องเพลง เต้นรำ เป็นต้น ซึ่งความหลากหลายของงานศิลปะนี้เอง ที่เป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่กรุงเทพฯ ต้องเก็บรวบรวม และ ทำให้เข้าถึงทุกคนอย่างตามที่เป็นจริง

ซึ่งศานนท์ บอกว่า กรุงเทพฯ จำเป็นต้องต้องให้การส่งเสริม รวมทั้ง สร้างความร่วมมืออย่างทั่วถึง กับช่วยประชาสัมพันธ์งานต่างๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่าง 3 เดือนของเทศกาลอย่างเต็มที่

“ศิลปะกว้าง เพียงพอที่จะห่อหุ้มทุกสิ่งทุกอย่างที่จะเกิดขึ้น แล้วเราก็เชื่อว่า ต้องมีสักเดือนที่พวกเรา ให้ความเอาใจใส่กับสิ่งที่เป็น soft power พวกเรา พูดถึงอะไรที่จับต้องได้มาเยอะ แต่ว่าบางทีศิลปะ ก็เป็นเรื่องที่จับต้องได้ยาก

เราในฐานะเมือง พวกเรา จึงต้องดึงสิ่งที่จับต้องไม่ได้ มาเป็นธีมให้ได้ แล้วมันก็บางทีก็อาจจะเป็นจิตวิญญาณของหลายคน ผมมีความรู้สึกว่า คนที่ขับเคลื่อนด้วยศิลปะมีเยอะแยะมาก และ สังคมก็ขับเคลื่อนด้วยการอยู่กันแบบนี้

โดยเหตุนี้ เมืองไม่ใช่สิ่งก่อสร้าง แต่เมืองคือผู้คน ผู้คนขับเคลื่อน และก็ มีจิตวิญญาณที่ห่อหุ้มด้วยศิลปะ และ ศิลปะก็เป็นส่วนหนึ่งที่พวกเราต้องขับเคลื่อน แล้วก็ ผลักดัน” ศานนท์ ชี้

Highlight เทศกาล ศิลปะ

ศิลปะ เพื่อเศรษฐกิจของเมือง

“ปฏิเสธไม่ได้ว่า ปากท้องต้องเดินตลอด งานเทศกาลอะไรแบบนี้ ก็เป็นแค่จุดเริ่มต้น รวมทั้ง มันจะทิ้งคำถามบางอย่างเอาไว้มากกว่า อย่างตอนที่พวกเราจัดกรุงเทพกลางแปลง มันก็ทิ้งคำถามว่า แล้วอุตสาหกรรมภาพยนตร์ตอนนี้ เป็นอย่างไร

พอเรามองเห็นข้อนี้ เรา ก็เอางานเทศกาลมาจุดประกาย เรา เอางานเทศกาลมาทำให้คนเห็นว่า มันมีรูปแบบของการดูหนังแบบนี้ด้วย ผมว่า ก็คล้ายกัน Colorful Bangkok 2022 อาจจะเป็นตัวจุดประกายให้อุตสาหกรรมสตรีทอาร์ต อุตสาหกรรมละคร อุตสาหกรรมเทศกาลศิลปะชุมชน” ศานนท์ ระบุ

นอกจากการ “จุดประกาย” คำถามต่ออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับงานศิลปะ และ ความสร้างสรรค์แล้ว กรุงเทพมหานคร ก็วางเป้าที่จะยกระดับอุตสาหกรรมนั้นๆ พร้อมทั้งสร้างเศรษฐกิจให้กับเนื้อเมือง หรือ ย่านต่างๆของกรุงเทพฯ

ซึ่งการจัดเทศกาลที่เกิดขึ้น จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ตลอดถึงการต่อยอดเศรษฐกิจในด้านต่างๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ นับว่าเป็นหัวใจของ“Festival Economy” ที่ต้องดำเนินต่อไป

“พวกเรา คงจะไม่หยุดระดับเมือง พวกเรา ต้องไประดับนานาชาติ แล้วเราต้องไปในระดับโลก ผมว่า เราต้องตั้งเป้าหมายแบบนั้น ผมคิดว่า กรุงเทพฯ มีศักยภาพสูงมาก พวกเรา เชื่อเหลือเกินว่า ปีหน้า หรือ ปีต่อไป ยังไงเราต้องเป็นระดับโลก เรา ต้องปักหมุดให้ทั่วทั้งโลกต้องมากรุงเทพฯ มันต้องเกิดขึ้นแน่” ศานนท์ กล่าวปิดท้าย

แพทริเซีย

"แพทริเซีย" ลุยเปิดอู่ปั๊มลูกแล้ว ยิ้มปลื้ม "โน้ต วิเศษ" คลั่งรัก ยิ่งแต่งก็ยิ่งหวาน

เรียกว่ายิ่งแต่งก็ยิ่งคลั่งรักสุดๆสำหรับ โน้ต-วิเศษ รังษีสิงห์พิพัฒน์ สามีของนางเอกสาว แพทริเซีย กู๊ด ที่ล่าสุดถึงกับลบรูปภาพอินสตาแกรมทั้งหมด ให้เหลือแค่ภาพคู่เก็บไว้เป็นโมเมนต์ดีๆต่อหัวใจ

ล่าสุด แพทริเซีย ได้เดินทางมาร่วมงานเปิดตัว บริษัท มดแดง มีเดีย จำกัด ก็ได้ออกมาอัปเดตให้ฟังว่า ขณะนี้ เดินหน้าเปิดอู่ปั๊มลูกด้วยวิธีธรรมชาติแล้ว ซึ่งถ้าหากมีข่าวดีที่แน่นอนเมื่อไร จะรีบออกมาบอกโดยทันที พร้อมเผยสามีดูแลดีอย่างไร ก็ยังคงดูแลดีอย่างนั้น เสมอต้นเสมอปลาย ไม่มีเปลี่ยน

แพทริเซีย โน้ต วิเศษ ลุยเปิดอู่ปั๊มลูกแล้ว

แพทริเซีย ใน IG โน้ต ลบรูปหมดเลย เหมือนรีสตาร์ทใหม่ เหลือแค่รูปของเรา ?

“ใช่ค่ะ ก็ตกอกตกใจเหมือนกัน ที่เห็นครั้งแรก เขาไม่ได้มาปรึกษาเลยคะ คือ เขาทำไปเรื่อยๆ มาเห็นอีกครั้ง คือ รูปหายไป ค่อนข้างเยอะ เขาบอก เขาไม่ได้ลบถาวร มันคือแค่ซ่อนไว้ เขาบอกเหมือนเป็นอีกขั้นใหม่ของชีวิตแล้ว แต่งงานแล้ว ก็อยากจะขอมองแค่อนาคต เขาพูดแบบนี้นะ”

พอเขาบอกอย่างนี้ เราชื่นใจไหม ?

“ก็รู้สึกดีค่ะ ที่เขาดูจริงจังกับอนาคต หรือ ชีวิตคู่ของเรา ก็ดีใจค่ะ เน้นทำงานดีกว่า ไม่ต้องเน้นโซเชียลอะไรเยอะแยะก็ได้”

แต่เขาก็เป็นดาว TikTok อยู่นะ ?

“จากที่เล่นขำๆ เปลี่ยนเป็นคนชอบมาก เป็นอาชีพหลักไปแล้ว แล้วมาถ่ายหนูในเวลาที่หนูหน้าโทรมๆทุกครั้ง แต่ก็ดีใจค่ะ ที่คนได้เห็น ชีวิตเราเป็นอย่างนี้ อีกอย่างเหมือนได้เข้าถึงแฟนๆด้วยค่ะ สนุก”

ใน IG เหมือนเราใช้ชีวิตไฮโซหรูหรา แต่ว่าทางด้าน TikTok เหมือนได้มองเห็นอีกมุม ที่ใช้ชีวิตติดดิน ธรรมดาเลย ?

“เหมือน TiKTok จะธรรมชาติกว่า IG เนอะ IG ทุกๆอย่าง มันต้องดูสวยงาม หรือ เป๊ะตลอดเวลา จริงๆ เราก็เบื่อนะ ไม่ต้องเล่นก็ได้ แต่ด้วยงาน มันเลยจะต้องเล่นค่ะ ก็นับว่าให้คนได้มองเห็นอีกมุมแล้วกันค่ะ ไม่ได้กะทำจริงจังนะ แต่ว่าเขาอาจเห็นว่า ทำแล้วฟีดแบคดีค่ะ ก็เลยทำเรื่อย”

มีอันไหนที่ขอไหม ว่าอันนี้หน้าไม่ไหวจริงๆไม่ลงได้ไหม ?

“แรกๆ มันจะมีแบบไม่ถ่ายได้ไหมวันนี้ เพราะเหตุใดจำเป็นต้องยกกล้องถ่ายรูปตลอดเวลา บางครั้ง เรา ก็อยากจะสนุกกับโมเมนต์นั้นๆใช่ไหมคะ แต่ว่าภายหลังๆ มันห้ามไม่ได้แล้วไง หน้าสด คิ้วไม่มี หัวฟู เราก็ปล่อยแล้วค่ะ”

แต่ว่าเราก็มั่นใจในความสด แต่ยังสวยของเรา ?

“ไม่ได้มั่นใจอะไรเลย แต่ซึ่งก็คือพาร์ทของชีวิตเรา”

สามีดูคลั่งรักเรามาก ?

“ก็ดูแลดีเหมือนเดิมค่ะ ในตอนนี้ คือ อยู่ด้วยกัน เจอกันทุกๆวัน ก็แฮปปี้ค่ะ แต่ว่าช่วงนี้ เราก็ต่างคนต่างลุยงาน ให้กำลังใจกันและกัน”

ยิ่งแต่ง เขาก็ยิ่งดูคลั่งรักเรามาก ?

“ไม่หรอกค่ะ หนูว่าเขาแค่อยากชัดเจนว่า อยากโฟกัสอีกพาร์ทของชีวิตแล้ว ต่างคนก็โตแล้วเนอะ แต่งงานแล้ว ก็มาโฟกัสอนาคตกันเลยดีกว่า ไม่ต้องคิดอะไรเยอะแยะ ไม่ต้องมองสิ่งที่ผ่านมา”

แพทริเซีย โน้ต วิเศษ

เขาเทคแคร์ แพทริเซีย มากยิ่งขึ้นกว่าแต่ก่อนไหม ?

“เหมือนเดิมค่ะ คือเขาเป็นคนที่เสมอต้นเสมอปลายมาก รักยังไงก็ยังรักอย่างนั้น ก็ขอให้เป็นอย่างนี้ไปนานๆ”

เราได้มีมุมแม่บ้าน ทำอาหารให้เขาทานบ้างหรือยัง ?

“ยังเลย พอเราทำงาน เขาก็แค่พูดว่า ยูขยันทำงานก็พอแล้ว อยากที่จะให้เรามีอะไรเป็นของตนเอง สร้างเนื้อสร้างตัวให้เราภูมิใจ เขาขอแค่นี้จริงๆเลย ส่วนอาหาร ยังไม่ได้ทำค่ะ อย่าให้ทำเองเลย แต่ว่าถ้าให้ทำด้วยกัน ให้เป็นลูกมือก็ได้ เขาจะเป็นคนมักจะทำมากกว่า ตัวหนูจะชอบทำขนมมากกว่าค่ะ ถ้าเกิดเป็นของคาวจะเฉยๆ”

หลังแต่งงาน เรารับงานตลอดเลย ไม่ได้พัก ?

“รับ (หัวเราะ) คือถ้ามีติดต่อมา เราก็รับอยู่แล้ว คือก่อนหน้านี้ การแข่งขันมันก็มากยิ่งขึ้นทุกๆวัน เราก็จะต้องดึงตนเองเรื่อยๆ ไม่ใช่แค่ละครอย่างเดียว หนูมีความคิดว่า ช่องทางที่คนเห็นเรา มันหลากหลายขึ้น หนูก็อยากทำงานให้มันหลากหลายขึ้นเช่นกัน ก็รับหมดค่ะ ถ้าหากมันตรงกับสิ่งที่เราต้องการทำ เราก็รับ”

รีบรับก่อนที่จะมีน้อง ?

“ใช่ ถูกเลยค่ะ คือเราแพลนไว้หมดแล้ว ถ้าหากน้องมาหนูออกมาบอกให้ทุกคนรู้แน่ๆค่ะ หนูต้องการที่จะให้มันชัวร์จริงๆ ก็วางไว้ว่าปีนี้ค่ะ เราปล่อยธรรมชาติเลย เอาเป็นว่าถ้าหากมีข่าวดีที่ชัวร์ๆ เดี๋ยวหนูจะมาบอกค่ะ ในตอนนี้ก็แจ้งกองไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ กองก็รีบถ่ายค่ะ”

มีฝันอะไรที่เป็นมงคลว่าจะได้ลูกแล้วบ้างหรือยัง ?

“ไม่มีเลย ไม่มีฝันอะไรเลย ยังไม่ได้มีใครให้โดฟอะไรเลยคะ กินเยอะเหมือนเดิม ยังสนุกกับชีวิตมาก”

โน้ต วิเศษ คลั่งรัก ยิ่งแต่งก็ยิ่งหวาน

เรือนหอตอนนี้แพทริเซีย แพลนไว้อย่างไร ?

“เราอยู่ที่คอนโดค่ะ ก็อยู่ที่ที่พี่โน้ตอยู่อยู่แล้ว จริงๆ ที่มันก็ออกจะพอ ถ้าเรามีน้อง ก็สามารถเลี้ยงสัก 2 คนที่นั่นได้สบายๆเลยค่ะ”

เราไปเบียดเบียนตู้ใส่เสื้อผ้าเขาเยอะแค่ไหนในตอนนี้ ?

“เขามีตู้เล็กๆ1 ตู้ ให้เรา ที่เหลือของเขาหมดเลย คือหนูยังไม่ได้ย้ายทุกอย่างเข้าไปค่ะ อย่างที่พูดว่า บางทีเรายังทำงาน ก็จะไปที่บ้าน ก็ยังอยู่กับคุณแม่ ตู้เดียวพอค่ะ หนูของไม่เยอะ แต่เขาบอกอาจจะตามอายุ พอเราโตขึ้น อาจเริ่มช้อปปิ้งมากขึ้น ในตอนนี้ บางครั้งอาจจะยังไม่ได้สนใจตรงนั้น”

ฝาแฝดเลยไหม ?

“ธรรมชาติ ไม่น่าจะแฝดอะ ที่บ้านหนูไม่มีใครเป็นฝาแฝดเลย เพราะฉะนั้น ก็น่าจะคนเดียวค่ะ”

สามีบอกให้ใส่แหวน วันนี้ก็ไม่ใส่มาอีกแล้ว ?

“ลืม (หัวเราะ) คือรีบแต่งตัว แล้วเราเก็บในเซฟอะ จะลืมเอาออกมาตลอดเลย ไม่ได้ใส่ติดตัวค่ะ เราก็แอบกลัวนะ ไม่ได้เป็นอะไรที่ใส่เป็นประจำค่ะ คือคุยกันแล้วว่า ขอไปซื้อแหวนวงเล็กๆที่จะใส่แบบสบายๆดีกว่าค่ะ”

เขาจะงอนไหม ?

“ไม่งอนหรอก เราก็ลืมจริงๆอะ (หัวเราะ) หนึ่งเลยคือเราไม่ชิน พึ่งได้ใส่ไม่ถึงเดือนเอง มันก็จะยังไม่ติดตัวขนาดนั้นค่ะ และก็ สองมันเป็นอะไรที่มีมูลค่า ถ้าหากมันหลวม อย่างเวลาหนูอยู่ที่เย็นๆ นิ้วจะเล็กลง ก็จะมีความระแวงมาก ก็เลยขอเป็นวงสำรอง ง่ายๆเดี๋ยวเราไปดูเองง่ายๆเลย บางครั้ง เราทำงานก็ไม่สะดวกในการใส่อยู่แล้ว อย่างเช่น ไปกองอะไรอย่างนี้”

ฮันนีมูนหรือยัง ?

“คือมีทริปทุกเดือนเลยคะที่เราแพลนไว้ แต่เป็นทริปกับครอบครัว ยังไม่มีทริปของเราสองคนค่ะ”

อาเซียน คัพ

หัวร้อนทิ้งทวน! กล้องจับภาพได้ "โค้ชปาร์ค" โวยผู้ตัดสินหลังจบเกมพ่ายไทย

อาเซียน คัพ ยังคงเป็นประเด็นกระทั่งจบทัวร์นาเมนต์สำหรับ ปาร์ค ฮัง-ซอ กุนซือชาวเกาหลีใต้ กับภารกิจการคุมทีมชาติเวียดนาม ในการแข่งขันฟุตบอลรายการ เอเอฟเอฟอาเซียนคัพ 2022 รอบชิงชนะเลิศ นัดสอง ที่สนามธรรมศาสตร์ รังสิต เมื่อวันจันทร์ที่ 16 ม.ค. ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา

โดยผลจากการแข่งขันอย่างที่รู้กันไปแล้วว่า “ทัพช้างศึก” ทีมชาติไทย เป็นฝ่ายเชือด 1-0 ทำให้สกอร์รวมเอาชนะไปได้ 3-2 หยิบแชมป์ฟุตบอลอาเซียนคัพ 2022 ไปครอบครองได้เป็นสมัยที่ 2 ต่อเนื่องกัน และก็เป็นการคว้าแชมป์รายการนี้ ได้เป็นสมัยที่ 7 ในประวัติศาสตร์

อย่างไรก็ตามหลังจากจบเกม อาเซียน คัพ สื่อเวียดนามได้เปิดเผยภาพ

กุนซือแดนโสมวัย 65 ปี ที่เดินปรี่เข้าไปหา จุมเป อิดะ ผู้ตัดสินชาวญี่ปุ่น เพื่อถามการตัดสินเกม ภายหลังจากไม่พอใจที่เห็นว่า เป่าให้ลูกทีมของเขา ไม่ได้เปรียบตลอดทั้งเกม จนสุดท้ายพ่ายแพ้ไป 0-1 แต่ก็ไม่มีเหตุบานปลายแต่อย่างใด

สำหรับเกมนัดหมายนี้ถือว่าเป็นการ ปฏิบัติหน้าที่หนสุดท้ายสำหรับในการคุมทีมชาติเวียดนามของ ปาร์ค ฮัง-ซอ เป็นนัดสุดท้าย หลังจากที่สัญญา จะหมดลงในช่วงปลายเดือนนี้ ซึ่งตลอดการคุมทีมในช่วง 5 ปี กุนซือแดนโสม พาทีมครอบครองแชมป์อาเซียนคัพ 1 สมัย (ปี 2018), พาทีมชาติรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี คว้ารองแชมป์เอเชีย และพาทีมผ่านเข้าถึงรอบ 12 ทีมสุดท้ายคัดบอลโลก 2022

ทีมชาติไทย แมสซี่

เหตุเหมือนเป๊ะ “ธีราทร” กับท่าฉลองทำประตู “เมสซี่” แต่ว่าทำบางคนเดือด

ถือเป็นจังหวะที่ถูกกล่าวถึงอย่างมากมาย กับท่าฉลองการทำประตูได้ของ ธีราทร บุญมาทัน กัปตันทีมชาติไทย ในการแข่งขัน ฟุตบอลอาเซียนคัพ 2022 รอบชิงชนะเลิศ นัดสอง เมื่อวันจันทร์ที่ 16 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยหลังจากที่ ดาวเตะตัวเก่งกดประตูสุดสวยให้ “ทัพช้างศึก” เป็นฝ่ายออกนำ เวียดนาม 1-0 ในตอนนาทีที่ 24 เจ้าตัว ก็วิ่งไปทำท่าดีใจกับท่า Siuuu ของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ตามสไตล์ ก่อนจะวิ่งไปกลางสนามแล้วทำท่าเอามือป้องที่หู

งานนี้ถึงกับทำให้ ปาร์ค ฮัง-ซอ โค้ชชาวเกาหลีใต้ เดือดหนักเดินออกมาชี้หน้าพร้อมทั้งฟ้องผู้ตัดสิน ให้ลงโทษหลังมองว่าเจตนายุตน แต่สุดท้ายก็ไม่มีเหตุการณ์แย่ลงกว่าเดิมแต่อย่างใด ซึ่งมูลเหตุน่าจะมาจากการที่ โค้ชแดนโสม ชอบออกมาเอ่ยถึงแข้งไทยรายนี้อยู่ตลอด แถมได้กล่าวในงานแถลงข่าว ก่อนเกมว่ารู้ดีถึงความสามารถของ ธีราทร แต่จะสั่งลูกทีมตามตามติดหนักกว่าเดิม รวมทั้งมีแผน รับมือเอาไว้แล้ว ไม่น่าเป็นห่วงแต่อย่างใด

งานนี้ทำให้หลายคนนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่ ลิโอเนล เมสซี่ กัปตันทีมชาติอาร์เจนตินา เคยทำท่าป้องหูใส่ หลุยส์ ฟาน กัล ผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบ 8 ทีมสุดท้าย ภายหลังที่ถูกวิจารณ์ว่ามีจุดบอด และก็จะสั่งลูกทีมตามปิดตายเช่นเดียวกัน

สำหรับในการคว้าชัยชนะของ ทีมชาติไทย สำหรับการแข่งขันฟุตบอลอาเซียนคัพ 2022 ถือเป็นการหยิบแชมป์มาครอง ได้เป็นสมัยที่ 7 ในประวัติศาสตร์ และนับว่ามากที่สุดที่ชาติ ในภูมิภาคในอาเซียนทำได้ หลังแข่งขันมาทั้งหมด 14 ครั้ง

เอเอฟเอฟอาเซียนคัพ 2022 รอบชิงชนะเลิศ

โดนหมายหัวแล้ว “โค้ชปาร์ค” ลั่นสั่งลูกทีมปิดตายหนึ่งแข้งไทยหลังป่วนจัดเกมก่อน อาเซียน คัพ

ปาร์ค ฮัง-ซอ ผู้จัดการทีมฟุตบอลชาวเกาหลีใต้ของ ทีมชาติเวียดนาม ที่เดินทางไปร่วมงาน แถลงข่าวก่อนเกม ที่จะพาลูกทีมลงสนามดวลกับ ทีมชาติไทย สำหรับเพื่อการแข่งฟุตบอลรายการ เอเอฟเอฟ อาเซียนคัพ 2022 รอบชิงชนะเลิศ นัดสอง ที่สนามธรรมศาสตร์ รังสิต เมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 มกราคม ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา

โดยในงาน โค้ชแดนโสมได้กล่าวว่า “ไม่ว่าจะเป็นเกมแรกหรือเกมสุดท้ายสำหรับการคุมทีม (ซึ่งก็คือว่านัดนี้จะเป็นนัดสุดท้ายในการคุมเวียดนาม) ผมมักจะเตรียมตัวด้วยความคิดเดียวกันเสมอ นั่นคือทุ่มเทเหมือนเดิม”

ขณะเดียวกันนี้เจ้าตัวยังได้ตอบสื่อถึงนักเตะตัวอันตราย ของทีมไทยว่า “หลายจังหวะที่อันตรายของพวกเขา เกิดจากนักฟุตบอลหมายเลข 3 (ธีราทร บุญมาทัน) เขาเป็นผู้เล่นคนสำคัญ ที่ทำเกมให้ทีมชาติไทย”

“ในนัดก่อนช่วงครึ่งแรกแดนกลางของเรา ได้รับคำสั่งให้ตามตามติดเขา ซึ่งก็ทำกันได้ดี แต่ว่าครึ่งหลังก็มีจังหวะที่พลาดบ้าง แต่ว่ากับเกมนี้แน่ๆเรามีแผนรับมือกับเขาเหมือนเช่นเคย” โค้ชปาร์ค กล่าวอย่างแน่ใจ

สำหรับเหตุการณ์ของ “ทัพดาวทอง” พวกเขาหวังที่จะบุกเอาชนะ ทีมชาติไทย หรือเท่ากันที่สกอร์มากกว่า 2-2 ในรอบชิงชนะเลิศ นัดที่สอง เพื่อโอกาสคว้าแชมป์

ปาร์ค ฮัง ซอ เอเอฟเอฟอาเซียนคัพ 2022

นายกล้ามั้ย “โค้ชปาร์ค” ท้า “มาโน” เปิดเกมบุกสู้เพื่อให้สมศักดิ์ศรีแชมป์อาเซียน

ฝ่ายจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน จัดแถลงข่าวก่อนที่จะมีการแข่ง รอบชิงชนะเลิศ นัดที่สอง คู่ระหว่าง ทีมชาติไทย กับ ทีมชาติเวียดนาม ตอนวันที่ 14 เดือนมกราคม 2566 เวลา 17.45 น. ที่ห้องแถลงข่าว สนามธรรมศาสตร์

ปาร์ค ฮัง-ซอ หัวหน้าผู้ฝึก ทีมชาติเวียดนาม บอกว่า “บางคนกังวลหลังจากเกมแรก ด้วยเหตุว่าเวียดนามเสียเปรียบ แต่ว่าเรามาที่นี่เพื่อชนะ เราพยายามทำเพื่อแฟนๆ ของเรา เราได้แข่งขันกับไทยมาหลายเกม ในปี 2018 ผมเอาชนะได้ ผมเชื่อเสมอว่า เราสามารถชนะทีมชาติไทยได้ และผมพูดไปหลายหนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเกมแรก หรือเกมสุดท้ายผมมักจะเตรียมพร้อมอย่างเดิม ทุ่มเทเท่าเดิม”

“ฉะนั้นเกมนี้ผมต้องการให้ ทีมชาติไทยเล่นอย่างดุเดือด ด้วยการเปิดเกมบุก นั่นเป็นการพิสูจน์ว่าพวกเขาสมควร ได้รับชัยชนะ ไม่ใช่เพียงแค่เนื่องจากสองประตูที่ทำได้ที่ มี ดินห์ สเตเดี้ยม”

“ผมมั่นใจว่าพวกเขาคงจะไม่ได้อยากต้องการเสมอ พวกเขามุ่งมั่นที่จะชนะ ครอบครองแชมป์ด้วยชัยที่มอบให้กับแฟนๆ ของเขา ผมไม่เข้าใจว่าทำไมไทย ถึงใช้กองหลังตัวกลางสามคนในเลกแรก ที่ผ่านมาพวกเขาใช้กองหลังสี่ตัว อาจเป็นเพราะความกดดันในเกมเยือน อาจเป็นเพราะเวียดนามทำให้พวกเขาเปลี่ยนไป หวังว่าในบ้านไทยจะใช้ 4 กองหลังเหมือนนัดที่แล้ว ถ้าหากไทยเล่นรุก เราก็เล่นรุกด้วย”

“อันดับแรก ผมต้องการจะขอบคุณแฟนๆ ที่ เกาหลีใต้ บ้านเกิดของผม ในตอนที่ผมทำงานในเวียดนาม ผมได้รับความสนใจ พวกเขาช่วยให้ผมมีกำลังใจในการทำงาน ให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ผมหวังว่าในอนาคต ผมจะมิได้ทำงานเป็นโค้ชอีกต่อไป ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนาม และเกาหลีจะยิ่งเพิ่มสูงมากขึ้นไปอีก”

 

เสี่ยเบนท์ลีย์

เสี่ยเบนท์ลีย์ ปิดค่างวดให้ปาเจโร ชดใช้คู่กรณีรวมกว่า 2 ล้าน จ่ายให้กู้ภัยอีก 8 แสน

เสี่ยเบนท์ลีย์ ชดใช้เยียวยาคู่กรณี ปิดค่างวดให้ปาเจโร รวมกว่า 2 ล้านบาท จ่ายให้กู้ภัยอีก 8 แสน จากกรณี รถเบนท์ลีย์ซิ่งบนทางด่วนฯ ไปชนรถยนต์ปาเจโร จนทำให้มีผู้บาดเจ็บ 8 ราย เมื่อวันที่ 8 เดือนมกราคม ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา

ล่าสุด มีรายงานว่า พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจทางด่วน 1 ได้เรียกคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายมาไกล่เกลี่ยกัน จนมีข้อยุติ โดย นายสุทัศน์ สิวาภิรมย์รัตน์ หรือ เสี่ยจั๊บ คนขับรถเบนท์ลีย์ ยอมชดใช้ค่าชดเชยให้กับคู่กรณี รถยนต์มิตซูบิชิปาเจโร ให้ นายศราวุธ 29,767 บาท นางสาวณิชชาวีณ์ 30,419 บาท นางวรพรรณ 65,820 บาท นายสมรักษ์ 570,000 บาท นางสาวธนานิษฐ์ 127,976 บาท และเด็กชายปน (นามสมมติ) 22,034 บาท

เสี่ยเบนท์ลีย์ ยังมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับทรัพย์สินอีก 374,900 บาท รวมกว่า 1,220,916 บาท

ตลอดจนเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อเป็นชื่อคู่กรณี และให้คู่กรณีจ่ายค่าปิดงวด กับไฟแนนซ์ทั้งหมด รวมค่าเสียหายทั้งหมด กว่า 2,000,000 บาท ซึ่งการจ่ายค่าเยียวยานี้วันศุกร์ที่ 13 ม.ค. ส่วนทางกู้ภัย ผู้ก่อเรื่องยอม ชดใช้ค่าเสียหาย 800,000 บาท ซึ่งจ่ายค่าเยียวยาเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 เดือนมกราคม ก่อนหน้านี้

เสี่ยเบนท์ลีย์ชนสนั่น 3 คัน ซิ่งบนทางด่วน ปาเจโร่ตีลังกา 6 ชีวิตรอดชีวิต “สุทัศน์ สิวาภิรมย์รัตน์” เศรษฐี ใหญ่อดีตนายทุนพรรคการเมือง ซิ่งเบนท์ลีย์บนทางด่วนจี้ท้ายรถ กระบะดับเพลิง อปพร.บางรัก ขณะ วิ่งไปเหตุไฟไหม้ ก่อนตบเข้าเลนซ้ายสุด เพื่อแซงปาเจโร่ป้ายแดงวิ่งอยู่เลนกลาง และจะตบเข้าขวาขึ้นหน้ารถดับเพลิง แต่ว่าไม่พ้นชนปาเจโร่ หมุนไปขวางกระบะดับเพลิง ชนสุดแรงกระทั่งหงายท้อง โชคดีคนภายในรถยนต์ 6 คน คาดเข็มขัดนิรภัย เจ็บสุดเพียงแขนหัก

ส่วนคนบนรถดับเพลิง 2 คน เจ็บนิดหน่อย หลังจากเกิดเหตุ พยานระบุสุทัศน์มีอาการคล้าย มึนเมา ในรถยนต์มีไวน์เปิดดื่มไปบางส่วน รวมทั้งปฏิเสธเป่าวัดแอลกอฮอล์ ในที่สุดยอมรับชดใช้คู่กรณีทั้งหมด ขณะตำรวจแจ้ง 2 ข้อกล่าวหาพร้อมพาไปตรวจเลือดหาปริมาณแอลกอฮอล์ที่ รพ.ตร.

เสี่ยใหญ่ผู้ครอบครองหลายธุรกิจซิ่งรถยนต์หรูพุ่งเข้าชนสนั่น บนทางด่วนคราวนี้เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 8 ม.ค. พันตำรวจโทพิเชษฐ์ ก้อนแพง รอง ผกก. (สอบสวน) งานศูนย์ควบคุมจราจรด่วน 1 กก.2 บก.จร. รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ชนกัน 3 คัน มีผู้ที่บาดเจ็บหลายราย บนทางพิเศษเฉลิมมหานคร หลักกิโลที่ 21+1001+100B มุ่งหน้าดินแดง แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กทม. ไปตรวจดูพร้อมมูลนิธิร่วมกตัญญู

จุดเกิดเหตุเป็นถนน 3 เลนเจอรถยนต์หรูยี่ห้อเบนท์ลีย์

รุ่นคอนติเนนตัล จีที สีเทา ทะเบียน 7 กค 3822 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ช่องทางซ้ายสุด มีร่องรอยเฉี่ยวชนที่หน้ารถยนต์ฝั่งขวา ในรถบริเวณเบาะหลังฝั่งซ้าย พบขวดไวน์เปิดดื่มไปแล้วนิดหน่อย ใกล้กันเลนกลาง เจอรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ ปาเจโร่ สีดำป้ายแดง ทะเบียน ณ 3830 กรุงเทพมหานคร สภาพหงายท้องล้อชี้ฟ้า มีร่องรอยถูกชนท้ายด้านซ้าย รวมทั้งด้านหน้ากระจกแตกทุกบาน ถุงลมนิรภัยทำงานอยู่ ห่างออกไปพบรถปิคอัพดับเพลิง อปพร.บางรัก ทะเบียน ถธ 1861 กรุงเทพมหานคร สภาพหน้ารถพังยับ ทั้งนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย ที่นั่งมาในรถยนต์มิตซูบิชิ นำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง รวมถึงเจ้าหน้าที่อาสาสมัครดับเพลิงชายอีก 2 คน บาดเจ็บเล็กน้อย

เวลาเดียวกันกล้องหน้ารถยนต์ของพลเมืองดี จับภาพขณะที่รถยนต์ยี่ห้อเบนท์ลีย์ สีเทา ขับมาด้วยความเร็ว แซงซ้ายแล้วเบี่ยงขวา ก่อนจะพุ่งเข้าชนท้ายรถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สีดำ ที่วิ่งอยู่เลนกลาง จนกระทั่งรถยนต์มิตซูบิชิ เสียหลักหมุนพุ่งชนขอบทางด้านขวาสุด ก่อนรถปิคอัพดับเพลิง อปพร.บางรัก ที่ขับอยู่ทางขวาด้วยความเร็วพุ่งชนซ้ำ ขณะรีบไปเหตุไฟไหม้ย่านอุดมสุข จนกระทั่งรถยนต์มิตซูบิชิคว่ำล้อชี้ฟ้า เสียหายพังยับ

นายอิทธิพล ประสงค์ทรัพย์ อายุ 35 ปี เจ้าหน้าที่อาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยมัสยิดฮารูณ คนขับรถดับเพลิง อปพร.บางรัก เผยว่า ก่อนเกิดอุบัติเหตุมีรถเก๋งหรูวิ่งตามมา ก่อนแซงซ้ายแล้วหักเข้าเลนกลาง แล้วมาขวาสุดเพื่อจะมาแซงหน้ารถตนอีกทีหนึ่ง แต่ว่าไม่พ้นไปชนท้ายรถยนต์มิตซูบิชิกระทั่งเสียหลัก มาเลนขวาและถูกตนพุ่งชนซ้ำ มีผู้บาดเจ็บหลายคน

เช่นเดียวกับนายอานนท์ ศรีสุวรรณากุล อายุ 44 ปี เจ้าหน้าที่อาสาสมัคร บอกว่า สังเกตอาการคนขับรถหรู มีอาการมึนเมาเดินลงจากทางด่วน ไปเรียกรถแท็กซี่เพื่อจะหนี แต่ว่ามีอาสาที่รู้เหตุการณ์ได้ขับรถตามรถแท็กซี่ไป จนถึงที่โรงพัก นอกจากนั้นขณะรอสอบสวนกับตำรวจพยายามเดินเข้าห้องน้ำ แล้วเดินออกหลังห้องน้ำ เพื่อจะหนีอีกรอบ สุดท้ายถึงพูดว่าจะรับผิดชอบความเสียหาย ที่เกิดขึ้นทั้งหมด

ปิดค่างวดให้ปาเจโร

ส่วนนายศราวุธ รีรักษ์ อายุ 37 ปี คนขับรถยนต์มิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร่ ป้ายแดง

พูดว่า พาครอบครัวทั้งหมด 6 คน เป็นผู้ใหญ่ 5 คน เด็กอายุ 4 ขวบ 1 คน ตนเป็นคนขับ มีพ่อนั่งด้านข้างเจ็บแขนหัก ถัดมาแถวสองเป็นแม่ หลานชาย 4 ขวบ รวมทั้งแฟน ส่วนน้องสาวนั่งอยู่ด้านหลัง ออกจากบ้านพักย่านทุ่งครุ ขึ้นทางด่วนมุ่งหน้าลงดินแดง เพื่อจะกลับบ้าน จังหวัดบึงกาฬ ขับเลนกลางมาตามปกติ ใช้ความเร็วราว ๆ 90 กม./ชม.

ถึงจุดเกิดเหตุ รู้สึกโดนกระแทก เหตุเกิดขึ้นเร็วมาก หลังจากรถพลิกคว่ำพยายามตั้งสติ ช่วยทุกคนออกมาจากรถ ที่รอดมาได้เพราะทุกคนคาดเข็มขัดนิรภัย มีพ่อคนเดียวที่อาการหนัก คือแขนซ้ายหัก รักษาตัวอยู่โรงพยาบาล ส่วนคนอื่นไม่ได้รับบาดเจ็บมากนักอาการปลอดภัย

ด้าน พ.ต.ท.พิเชษฐ์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นจากการคุยคนขับเบนท์ลีย์ยอมรับผิด ยินดีจะใช้ค่าเสียหายให้กับคู่กรณีทั้งหมด พร้อมแจ้งข้อหาขับรถประมาททำให้ผู้อื่นเสียทรัพย์ กับขับขี่รถประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ จะเจ็บมากหรือเจ็บน้อยจะต้องรอแพทย์ประเมิน

แล้วต่อจากนั้นได้ส่งตัวคนขับไปตรวจเลือด ที่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อหาปริมาณแอลกอฮอล์ เป็นการตรวจที่ตามมาตรฐานมีความแม่นยำสูงกว่าการเป่า นอกเหนือจากนั้นประเด็นพบขวดไวน์อยู่ข้างในรถ ว่าเปิดหรือไม่เปิดนั้น

เจ้าหน้าที่สอบสวนไม่จำเป็นต้องตรวจสอบ เพราะผู้ขับขี่แสดงตัว และไม่ได้หลบหนี ไม่ต้องค้นรถ แล้วก็ตรวจคราบต่าง ๆ หากผลตรวจเลือดจากโรงพยาบาล ออกมาว่าคนขับขี่มีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกำหนด สามารถแจ้งข้อหาเมาแล้วขับเพิ่มได้

ดังนี้ ทางฝั่งรถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร่ บาดเจ็บทุกคน หนักสุดแขนหักอยู่ระหว่างรักษาที่โรงพยาบาล ส่วนคนอื่น ๆ บาดเจ็บเล็กน้อย เรื่องของการเจรจาไกล่เกลี่ย มีทนายความของฝั่งรถยนต์มิตซูบิชิได้ติดต่อกับพนักงานสอบสวนแล้ว เช่นเดียวกับฝั่งรถดับเพลิง มีตัวแทนติดต่อมาแล้วเช่นกัน

กู้ภัย 8 แสน

รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้ขับขี่รถหรูเบนท์ลีย์ คือนายสุทัศน์ สิวาภิรมย์รัตน์ มีชื่อเป็นกรรมการ 7 บริษัท ได้แก่

1.บริษัท ไทยวัฒนา แอสเซ็ท จำกัด ประกอบการซื้อขายที่ดิน

2.บริษัท ทัช มี ฟู้ด (ไทยแลนด์) จำกัด จำหน่ายอาหารสำเร็จรูป

3.บริษัท เบเนฟิท ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด ขายปลีกวัสดุก่อสร้างอื่นๆ

4.บริษัท เมก้า เวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด ประกอบการขายปลีกวัสดุก่อสร้างอื่นๆ

5.บริษัท แมกซ์ เทรด จำกัด ประกอบการขายวัสดุก่อสร้าง

6.บริษัท หทัยราษฎร์ คอมเพล็กซ์ จำกัด ประกอบการตลาดสด และ

7.บริษัท เอกทวีสิน ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ประกอบการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์อาคารสำนักงาน

นอกจากนี้ นายสุทัศน์ ในอดีตเมื่อช่วงเดือน เม.ย.62 มีข่าวเป็นนายทุนพรรคเศรษฐกิจใหม่ สมัยที่นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ เป็นหัวหน้าพรรคด้วย

จิ๊บ คีตภัทร

แฟนคลับสุดคิดถึง เปิดภาพปัจจุบัน ‘จิ๊บ คีตภัทร’ นางเอกดังที่สวยเด่นไม่เปลี่ยนแปลง

จัดเป็นอีกหนึ่งดาราหนังสาวสวยที่หลายคนหลงใหลเธอหนักมาก สำหรับสาว จิ๊บ คีตภัทร อันติมานนท์ ที่ฝากผลงานสุดปังเอาไว้อย่างมาก เป็นต้นว่า กามเทพลวง, กว่าจะรู้เดียงสา, หมอผีไซเบอร์, เบญจา คีตา ความรัก อื่นๆอีกมากมาย ถึงแม้ในช่วงเวลานี้คุณจะไม่ค่อยมีผลงานแสดงออกทางหน้าจอให้ได้ดูกันเท่าไหร่ แต่บอกเลย แฟนๆรักเธอ และนึกถึงหนักมาก

งานนี้พวกเราเลยไม่พลาด เชิญทำความรู้จักสาว จิ๊บ เบาๆและพาไปชมรูปสวยๆของสาวจิ๊บกัน ที่บอกเลยว่า คุณสวย หุ่นดี และโดดเด่นไม่เปลี่ยนแปลงเลย โดยสาวจิ๊บเกิด|วันที่ 21 พ.ย. พุทธศักราช 2527 เป็นดาราชาวไทยในสังกัดดาราวิดีโอ และสถานีส่งสัญญาณโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 จิ๊บ เป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษ เป็นลูกสาวคนเล็กของครอบครัว อันติมานนท์ เป็นดาราหนังสาวชาวไทย ซึ่งเป็นน้องสาวของผู้แสดงฝ่ายชายเป็น จิม เจจินตัย แวนดิว

จิ๊บ มีผลงานเรื่องแรก ยกตัวอย่างเช่น กว่าจะรู้เดียงสา แสดงคู่กับ วี วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ เป็นที่รู้จักในบท แว่นทิพย์ ซึ่งเป็นนางเอกใน ละครหลังข่าว เรื่องแรกเมื่อในปี 2543 และละครเรื่อง เจ้าสัวน้อย และผลงานที่แสดงคู่กับ วี วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ อีกหนึ่งเรื่อง ละครเรื่อง ลูกหลง ทำให้ คีตภัทร เป็นดาราที่รู้จักกัน และมีชื่อในยุคนั้น ถัดมา คีตภัทร รับงานละครหลายๆเรื่อง และเป็นการสลับบทบาทเป็นนางร้าย และเป็นนักแสดงที่มีคุณภาพ และมีความสามารถ ด้านการแสดงอีกคับคั่งนั่นเอง

โดยหลังจาก จิ๊บ เบาๆงานในวงการบันเทิงไป จากทางจอ ก็ทำเอาแฟนคลับคิดถึงหนักมาก พากันมาส่องไอจีของเธอ และบอกรัก บอกคิดถึง รวมถึงส่องชีวิตสุดปังของเธอ กันอย่างมาก

จิ๊บ คีตภัทร เปิดภาพปัจจุบัน

​​ทำความรู้จัก งามเก่งครบสูตร จิ๊บ คีตภัทร อดีตนางเอกดังสมัย 90

เป็นอีกหนึ่งศิลปินสาวสวย ที่ห่างหายจากวงการบันเทิงไปนานมากๆสำหรับ จิ๊บ คีตภัทรน้องสาวของศิลปินหนุ่มหล่อ จิม เจจินตัย อันติมานนท์ โดยทั้ง จิ๊บ และ เจจินตัย เป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงมากๆในสมัย 90 ถ้าเกิดใครเคยเห็นละครดังช่อง 7 อย่างเรื่อง เบญจา คีตา ความรัก หรือ กว่าจะรู้เดียงสา เชื่อว่าต้องคุ้นตา จิ๊บ คีตภัทรวันนี้ เราจะพามาทำความรู้จักจิ๊บ คีตภัทร กันอีกรอบ เผื่อคนใดที่ยังไม่ทราบ หรือ จำสาวคนนี้ไม่ได้

คีตภัทร อันติมานนท์ ชื่อเล่น จิ๊บ

เกิดเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2527

เป็นดาราหนังชาวในสังกัดดาราวิดีโอ และสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7

จิ๊บ คีตภัทรเป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษ

เป็นลูกสาวคนเล็กของครอบครัวอันติมานนท์

จิ๊บ เป็นดาราสาวคนประเทศไทยซึ่งเป็นน้องสาวของ นักแสดงชายเป็น จิม เจจินตัย อันติมานนท์

สำหรับเรื่องของการเข้าวงการบันเทิงของจิ๊บ คีตภัทร นั้น คุณเริ่มเข้าสู่วงการสายบันเทิงไทย เป็นดาราหนังในสังกัดศิลปินวิดีโอ และสถานีส่งสัญญาณโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7

และมีผลงานเรื่องแรกเป็นต้นว่า กว่าจะรู้เดียงสา แสดงคู่กับ วี วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ เป็นที่รู้จักในบทบาท แว่นทิพย์ ซึ่งเป็นนางเอกในละครหลังข่าวเรื่องแรกเมื่อในปี 2543 และละครเรื่อง เจ้าสัวน้อย และผลงานที่แสดงคู่กับ วี วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ อีกหนึ่งเรื่องละครเรื่อง ลูกหลง ซึ่ง จิ๊บ มีผลงานโดยตลอด ทำให้คุณเป็นนักแสดงที่รู้จักกัน และโด่งดังในยุคนั้น และอีกหนึ่งเรื่องที่ทำให้เธอเป็นที่รู้จักคือเรื่อง เบญจา คีตา ความรัก ซึ่ง จิ๊บ รับงานละครหลายๆเรื่องและเป็นการสลับบทบาทเป็นนางร้ายและเป็นนักแสดงที่มีคุณภาพ และมีความสามารถด้านการแสดงเป็นอย่างมาก

พักหลังๆเธอได้เฟดตัวออกจากวงการบันเทิง และยังดำเนินการมีธุรกิจส่วนตัว รวมถึงเธอยังมีธุรกิจส่วนตัวควบคู่ไปด้วย และยิ่งไปกว่านี้ จิ๊บ ยังเป็นพาร์ทเนอร์ ร้านอาหารไทย ที่ชื่อ Noi Thai Cuisine Greenlake ที่ Seattle ประเทศสหรัฐอเมริกา อีกด้วย จะต้องกล่าวว่า สาวคนนี้ ทั้งสวย มากความสามารถ ครบสูตรจริงๆ

จิ๊บ คีตภัทร ปัจจุบัน

“จิ๊บคีตภัทร” จ่อฟ้อง! สับเละคนปล่อยข่าว นางเอก จ. กระทบครอบครัว-แฟน

หลังจากที่ผู้ใช้ ติ๊กต๊อก รายหนึ่ง ได้ออกมาเปิดเผยใจความว่า “มีข่าวหลุด!! อดีตนางเอกดังช่องหลายสี แอบไปซื้อหนุ่มนอกวงการกิน แล้วโดนหนุ่มอัดคลิปแบล็กเมล์ เรียกเงิน 4 แสน ล่าสุดมีคลิปหลุดออกมา เร็วๆ นี้เจ้าตัวเตรียมแถลงข่าวแน่นอน”

ต่อมา ก็ได้โพสต์อีกว่า “โดนแล้ว! อดีตนางเอกดังช่องหลายสี ชื่อย่อ จ. เข้าแจ้งความเอาผิดหนุ่มนอกวงการ หลังขายคลิปตนเองที่กำลังมีอะไรกัน ให้กลุ่มลับกลุ่มหนึ่ง ในราคา 4 แสนบาท ซึ่งความยาวคลิปเต็ม 21 นาที เห็นหน้าตัวเองชัดเจน เลยทำให้เกิดความเสียหาย เจ้าตัวลั่นไม่ยอมความ พร้อมเอาเรื่องให้ถึงที่สุด”

จนถึงทำให้ชาวเน็ตแอบเดากันไป ต่างๆนานา ว่าอดีตนางเอกจ. ช่องหลากสีคือใคร ซึ่งหนึ่งในนั้นแอบมีคนผุดชื่อขึ้นมา ว่าใช่ “จิ๊บ คีตภัทร อันติมานนท์” ดาราหนังสาวสมัย 90 หรือเปล่า ทำให้วันนี้ (13 เดือนมกราคม) เจ้าตัวจะต้องรีบออกมาแจกแจงผ่านไอจี ว่าตัวเองไม่ใช่คนในข่าวอย่างแน่แท้ พร้อมจะฟ้องร้องคดีตามกฎหมาย กับคนที่ทำให้ตนและครอบครัวได้รับความเสียหาย

“ขออนุญาตชี้แจงข่าวที่เป็นประเด็นอยู่ตอนนี้นะคะ ว่าไม่ใช่จิ๊บแน่นอนค่ะ จากข่าวที่มีการใช้ชื่อหรือเจตนาใช้ภาพจิ๊บซึ่งทำให้ เกิดความเข้าใจผิดและเสียหายต่อตัวจิ๊บ ครอบครัว และแฟนเป็นอย่างมาก ซึ่งไม่เป็นความจริง ไม่ได้เกิดเรื่องและไม่ได้มีการไปแจ้งความดำเนินคดีใดๆ อย่างในข่าว จิ๊บมาหาครอบครัวที่อเมริกาเป็นเวลา 3 เดือนแล้วค่ะ อยากขอให้ทุกคนใช้วิจารณญาณในการเสพข่าวส่วนผู้ที่ทำให้จิ๊บและครอบครัวได้รับความเสียหาย จะขอดำเนินคดีตามกฎหมาย เพื่อรักษาสิทธิและ ความถูกต้องให้ถึงที่สุด ขอบคุณทุกๆกำลังใจที่ส่งเข้ามานะคะ”

แจมิน ซาแซงแฟนรุมประชิดตัว

เอฟซีเดือด ซาแซงแฟนรุมประชิดตัวศิลปิน บินส่วนตัวที่สุวรรณภูมิ ดันแฮชแทกพุ่ง

เอฟซีเดือด ซาแซงแฟนรุมประชิดตัว แจมิน บินส่วนตัวที่สุวรรณภูมิ ดันแฮชแทกพุ่ง เรียกว่าเป็นใจความสำคัญร้อนในโลกออนไลน์ข้ามคืน
พุ่งติดเทรนด์อันดับ 1 ทวิตเตอร์ ทั้งยังติดเทรนด์ไปจนถึงเช้าวันนี้ในท็อป 5 ยังไม่ลง เมื่อมีเหล่าซาแซงแฟน หรือ กลุ่มแฟน ๆ ที่รอตามติดศิลปิน ลุกล้ำ แล้วก็คุกคามความเป็นส่วนตัว รวมไปถึงการสร้างความรำคาญให้กับศิลปิน จำนวนหนึ่งเข้าไปรุมศิลปินระหว่างเดินทางส่วนตัวคนเดียวที่สนามบินสุวรรณภูมิ

แจมิน

โดยในทวิตเตอร์ มีคลิปวิดีโอหนึ่งที่เผยแพร่ขณะที่แฟนคลับสายสิบคน เดินเข้าไปรุม แจมิน

ถ่ายภาพ ถือกล้อง ประชิดตัวศิลปิน ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ทำให้คนที่ใช้บริการในสนามบินที่ไม่เกี่ยวข้อง
เดินออกจากบริเวณดังกล่าว พร้อมระบุใจความว่า “คือผมไม่รู้ว่าเขาเป็นใครแต่ มันขนาดนั้นเลยหรอ รุมเขาโพดโพ มันเกินไป๊”

ทำให้แฟนคลับจำนวนมาก ต่างไม่พอใจ รวมทั้ง ติเตียนการกระทำดังกล่าว โดยยิ่งไปกว่านั้นมีการเผยในทวิตเตอร์
ว่ามีแอคเคาท์ทวิตเตอร์บางแอคเคาท์ นำเอาไฟล์ทบินของศิลปินมาขายต่อ ก่อนที่จะปิดแอคเคาท์หนี โดยมีอีกทั้งไฟล์ทของ แจมิน ศิลปินในคลิปวิดีโอ และก็ เหรินจวิ้น เพื่อนร่วมวง NCT Dream ที่เดินทางมาไทย กับ เตนล์ วง NCT สมาชิกชาวไทยที่พึ่งจะเดินทางกลับเมื่อไม่กี่วันก่อน

ดังนี้ แฟนคลับหลายท่านมองว่า การกระทำของซาแซงแฟนดังกล่าว เป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวของศิลปิน โดยยิ่งไปกว่านั้นอย่างยิ่ง เมื่อปีที่ผ่านมา แจมิน เพิ่งจะเดินทางมาร่วมคอนเสิร์ตรวมในประเทศไทย และก็ประทับใจมาก โพสต์ภาพต่างๆ ลงในอินสตาแกรม เป็นภาษาไทย ว่า รักแฟนคลับชาวไทย

เอฟซีเดือด

โดยในขณะนี้ NCT Dream ศิลปินประเทศเกาหลีชื่อดัง

ที่มียอดจำหน่ายอัลบั้มกว่า 3 ล้านชุด แล้วก็เพิ่งจะประกาศทัวร์คอนเมืองไทย กำลังอยู่ในตอนได้หยุดพัก หลังจากที่ทำงานอย่างหนักตลอดทั้งปี โดยเพิ่งจะปล่อยเพลงล่าสุดอย่าง Candy ออกมา การเดินทางมาเที่ยวที่เมืองไทยครั้งนี้ ก็เป็นแบบส่วนตัว ซึ่งสื่อประเทศเกาหลียังไม่เคยทราบ และไม่มีการ์ดเดินทางมาด้วย รวมทั้งแฟนคลับหลายคนก็ไม่เคยรู้ ทำให้ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยรู้สึกแย่ที่ซาแซงแฟนมีพฤติกรรมดังกล่าว โดยยิ่งไปกว่านั้นอย่างยิ่งเมืองไทยเป็นประเทศที่มีความเรียบร้อยในการต้อนรับและก็ส่งศิลปินที่สนามบินมาโดยตลอด การกระทำครั้งนี้ก็เลยทำลายชื่อเสียงในประเทศ

ซาแซงแฟนรุมประชิดตัวศิลปิน

และก็มีการติดแฮชแทก #ซาแซง-เ-ีย กระทั่งพุ่งติดเทรนด์ทวิตอีกด้วย

คนจำนวนไม่น้อยยังประณามแอคเคาท์ต่าง ๆ ที่นำเที่ยวบินของศิลปินมาขาย
โดยคิดว่าเป็นการคุกคามความเป็นส่วนตัวศิลปิน รวมทั้ง คิดว่า ความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญ และก็สงสัยว่าคลิปดังกล่าวมาได้อย่างไร

15 ความจริงของ นา แจมิน รอยยิ้มของ NCT

Na Jaemin (นา แจมิน) หรือที่หลายคนรู้จักกันในนาม นานา หรือ แจมิน NCT ผู้ชายที่ทำให้ใคร ๆ ก็ต้องตกหลุมรัก แค่เพียงได้มองเห็นรอยยิ้มสวย ๆ ของเขาเท่านั้น

ซาแซงแฟนรุมประชิด

ประวัติ
ชื่อ : 나재민 -Na Jaemin (นา แจมิน)
เกิด : วันอาทิตย์ที่ 13 เดือนสิงหาคม 2000 (พุทธศักราช 2543)
สูง : 177cm.
หมู่เลือด : AB
MBTI ISFJ-T
ยูนิต : NCT DREAM, NCT U
สังกัด : SM Entertainment
Instagram : @na.jaemin0813

แจมิน Na Jaemin

พอจะรู้จักแจมินกันมากขึ้นแล้ว เรามาดูเรื่องจริง 15 ข้อที่หลายท่านอาจจะยังไม่เคยรู้ เกี่ยวกับแจมินกัน

  1. แจมินเกิดที่จอนจู ในจังหวัดช็อลลาเหนือ ใกล้ ๆ ปูซาน แล้วมาโตที่โซลเลย แจมินเลยกล่าวสำเนียงโซล
  2. แจมินเป็นลูกคนเดียว รวมทั้งต้องการมีน้องสาว (แจมินชอบให้คนเรียกว่าโอ้ปป้า เพราะเวลามีคนเรียกเขาว่าโอ้ปป้า มันเป็นความรู้สึกที่ดีมาก ๆ )
  3. ชอบศึกษาเรื่องรถ โดยยิ่งไปกว่านั้น Sport car
  4. ผลไม้ที่แจมินชอบทานมากที่สุดคือพีช รวมทั้งสัตว์ที่แจมินชอบที่สุดคือ สุนัข
  5. ทานผลิตภัณท์จากนมวัวไม่ได้ เนื่องจากร่างกายย่อยผลิตภัณท์จากนมวัวได้ไม่ค่อยดีนัก แถมยังไม่ชอบดื่มนมด้วยเพราะเหตุว่าตอนเด็ก ๆ แม่บังคับให้ดื่มนมตลอด
  6. ทำอาหารเป็น และทำได้ดีด้วย
  7. อาหารที่แจมินชอบเป็น Fast food ต่าง ๆ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ไก่ทอด พิซซ่า และของหวานต่าง ๆ
    ยกตัวอย่างเช่น เยลลี่ ช็อคโกแลต นมช็อคโกแลต และก็ ชาเขียว
  8. เครื่องดื่มที่แจมินถูกใจที่สุดคือ กาแฟ เพราะเหตุว่ารสขม ๆ ของกาแฟที่ทำให้เขารู้สึกตื่นตัว แจมินเลยดื่มกาแฟเพิ่ม Espresso 4 ช็อต 6 แก้วต่อวัน
    แต่ในตอนนี้ลดเหลือเป็น 2 แก้วแล้ว เนื่องจากว่าแฟน ๆ เริ่มเป็นห่วงสุขภาพของแจมิน
  9. แจมินถูกใจสั่งชานมที่ความหวาน 100%
  10. เวลาต้มบะหมี่แจมินจะใส่ผักชีลงไปเยอะแยะแบบผักชี 1 ถ้วย ต่อบะหมี่ 1 ชาม
  11. ถูกใจเล่นแบดมินตัน จนถึงทำเป็นงานว่าง และก็กีฬาที่แจมินไม่ชอบเลยคือเล่นฮูลาฮูป
    นอกเหนือจากนี้งานที่ทำในเวลาว่างของเขายังมี ดูอนิเมะ ฟังเพลง ถ่ายภาพ และ การซื้อเสื้อผ้าและก็รองเท้า
  12. ชอบถ่ายรูปมาก ๆ อีกทั้งแบบฟิล์มรวมทั้งแบบดิจิตอล จากนั้นเขาจะเอารูปที่ถ่ายมารีทัชด้วยตัวเองทั้งหมด ก่อนจะส่งให้เมมเบอร์แต่ละคน
  13. ถูกใจฤดูใบไม้ร่วงมากที่สุด ถูกใจฤดูใบไม้ร่วงก็จริง แต่แจมินก็เลือกที่จะออกไปภายนอกในวันที่แดดออก เพราะว่าเขาชอบอากาศแบบนั้นมากกว่า
  14. แม้กระทั่งจะเป็นตอนกลางวันก็ตาม แจมินจะปิดมู่ลี่ในห้องไว้ตลอด เพราะเขาไม่ค่อยชอบแสง รวมทั้งแน่นอนว่าเขาก็ไม่ค่อยถูกใจให้ห้องนอนของตัวเองมีแสงด้วยเช่นเดียวกัน
  15. มีลำโพงอยู่รอบห้องนอนของเขาประมาณ 10 กว่าอัน เนื่องจากว่าสิ่งที่แจมินชอบทำที่สุดเวลาพักผ่อนอยู่ที่หอพัก คือการนอนเฉย ๆ แล้วเปิดเพลงในห้องตัวเอง

หวังว่าทุกคนจะได้รู้จักแจมินกันมากขึ้น และหลังจากเริ่มต้นวันด้วยรอยยิ้มสวย ๆ ของแจมินแล้วขอให้ทุกคนมีวันที่ดีนะคะ

เที่ยวบิน

รัฐบาลยอมปรับเกณฑ์คุมโควิด นทท. ต่างชาติ ยกเลิกตรวจหลักฐานวัคซีน หลังเอกชนท่องเที่ยวไม่พอใจ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีรวมทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
เปิดเผยว่าได้ยกเลิกมาตรการการตรวจเอกสารการได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว หลังจากภาคการท่องเที่ยว ขอให้ทบทวน คำสั่งดังกล่าวมีขึ้นหลังผู้โดยสารจำนวน 269 คน จากสาธารรัฐประชาชนจีน เที่ยวบิน แรก เดินทางถึงไทยแล้วเมื่อ 9 เดือนมกราคม หลังจากจีนเปิดประเทศเมื่อ 8 ม.ค.

นี่เป็น ความเปลี่ยนแปลงปัจจุบันของมาตรการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่นายอนุทิน เผยระหว่างการแถลงข่าวที่สนามบินสุวรรณภูมิเมื่อช่วงบ่าย หลังจากมาตรการชุดใหม่ที่ออกมาเมื่อวันที่ 5 มกราคม มีผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติจากประเทศอื่น โดยผู้ประกอบการนำเที่ยวต่างชาติจากอังกฤษ กลุ่มสแกนดิเนเวีย เยอรมนี ประเทศฝรั่งเศส และรัสเซีย ต่างแสดงความกังวลผ่านมาทาง สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต, จังหวัดพังงา รวมทั้งกระบี่

นายอนุทิน ระบุถึงเหตุที่คณะกรรมการด้านวิชาการ ภายใต้พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 มีมติยกเลิกการตรวจเอกสารการได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติตามมาตรการที่ออกมาที่ผ่านมา เนื่องมาจากมีความคิดเห็นว่า มีการฉีดวัคซีนทั้งยังในไทยรวมทั้งจีนจำนวนมากแล้ว
รวมทั้งประเทศอื่น ๆ ทั้งโลก โดยเหตุนั้น การมุ่งเน้นการแสดงหลักฐานการฉีดยาจะทำให้เกิดความไม่คล่องตัว

ส่วน เที่ยวบิน ฏแรกที่มาถึงไทย เป็นเที่ยวบิน MF833 สายการบินเซียเหมินแอร์ไลน์

เดินทางจากเมืองเซี่ยเหมิน มณฑลฝูเจี้ยน สาธารณรัฐประชาชนจีน ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ
เมื่อเวลา 12.50 น. ที่ผ่านมา โดยมีนายอนุทิน และก็ รัฐมนตรีว่าการท่องเที่ยวฯ รมว. คมนาคม ให้การต้อนรับ

นายอนุทิน กล่าวยืนยันว่า มาตรการต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนมีความเหมาะสม เน้นใช้มาตรการคุ้มครองโควิด-19 โดยใช้กฎระเบียบเดียวกันกับนักท่องเที่ยวสัญชาติอื่นด้วยหลักการเท่าเทียม ไม่แบ่งแยกจนกระทั่งจะมีสถานการณ์จำเป็นต้อง รัฐมนตรีว่าการสาธารณสุข ระบุเหตุว่า
วันนี้จะมีเที่ยวบินขาเข้าจากจีน 15 เที่ยวบิน รวมนักท่องเที่ยว 3,465 คน คาดการณ์ว่าตลอดทั้งปี นักท่องเที่ยวจีนจะเดินทางเข้าไทยผ่านทางสนามบิน 7-10 ล้านคน

ภาคการท่องเที่ยวและก็บริษัททัวร์ต่างชาติกังวลอะไรบ้าง

สาระสำคัญในหนังสือที่สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตเสนอต่อรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์อร่อย นายกรัฐที่ปรึกษาและรัฐข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ว่ากระทรวงกลาโหม ลงวันที่ 7 ม.ค. ได้สะท้อนความเห็นจากบริษัทนำเที่ยวต่างประเทศโดยยิ่งไปกว่านั้นในทวีปยุโรป ที่แสดงถึงความกังวลอย่างสูงสุดต่อการปรับเปลี่ยนนโยบายการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติของไทย

มาตรการ เที่ยวบิน

บริษัทนำเที่ยวประเทศอังฤษ

การประกาศดังกล่าวดำเนินการฉุกเฉินเกินไป ควรจะมีระยะเวลาแจ้งล่วงหน้า เนื่องจากลูกค้าโดยมากออกเดินทางเพื่อไปขึ้นเครื่องบิน
แล้วก็บางทีอาจไม่สามารถนำใบรับรองการฉีดวัคซีนมา จึงจะมีผลให้ถูกปฏิเสธการขึ้นเครื่องบินได้
มีความกังวลว่าลูกค้าที่ไม่ได้ฉีดยาจะไม่สามารถเดินทางได้ และบริษัทนำเที่ยวต้องทำการคืนเงิน ยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการจากรัฐบาล

บริษัทจากประเทศในแถบสแกนดิเนเวีย

บริษัทนำเที่ยวไม่สามารถแจ้งลูกค้าได้ทันเรื่องการตรวจใบรับรองการฉีดวัคซีน เนื่องจากเป็นการประกาศในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์แล้วก็มีผลบังคับใช้ทันทีในวันจันทร์ที่ 9 เดือนธันวาคม
ในส่วนลูกค้าที่ไม่ได้ฉีดยาแต่ซื้อแพกเกจทัวร์ไปแล้ว จากประกาศดังกล่าวทำให้ต้องยกเลิกและคืนเงินลูกค้า ซึ่งทำให้เกิดความทรุดโทรมทางธุรกิจ

บริษัทนำเที่ยวประเทศเยอรมนี

เห็นว่าเป็นการออกเกณฑ์ดังกล่าว ก่อให้เกิดปัญหารวมทั้งลดความมั่นใจทางการท่องเที่ยวอย่างมาก มีการยกเลิกจากลูกค้ากว่า 1,000 รูมไนท์ แล้ว หลังมีเรื่องการเปลี่ยนมาตรการดังกล่าว มาตรการดังกล่าวทำให้เกิดปัญหาระหว่างบริษัททัวร์และก็ลูกค้า เพราะมาตรการใหม่ของรัฐบาลไทยไม่เข้าข่ายที่นักท่องเที่ยวจะขอคืนเงินจากสายการบินเมื่อถูกไม่ยอมรับการเดินทาง

บริษัทนำเที่ยวประเทศฝรั่งเศส

ผู้ประกอบการนำเที่ยวมีความไม่พอใจ เนื่องจากระเบียบใหม่นับว่าไม่เข้าข่ายการคืนเงิน ในกรณีที่ผู้โดยสารถูกไม่ยอมรับการเดินทางโดยสายการบิน
บริษัทนำเที่ยวฝรั่งเศสได้จะหาทางทำ Force Majeure ในการยกเลิกการเดินทางมาไทยเนื่องจากความไม่มีเสถียรภาพของรัฐบาลไทย

บริษัทนำเที่ยวจากรัสเซียรวมทั้งกลุ่ม CIS

ผู้ประกอบการนำเที่ยวจากกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช (อดีตสหภาพโซเวียต) ได้รับผลกระทบทางธุรกิจ เนื่องจากว่าผู้ประกอบการโดยมากได้ทำสัญญาแบบเช่าเหมาลำล่วงหน้า ขณะที่ในกลุ่มนักท่องเที่ยวมีทั้งคนที่ได้รับวัคซีนครบและไม่ได้รับวัคซีนส่วนหนึ่ง เมื่อมีมาตรการดังกล่าวได้ก่อให้เกิดปัญหาต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยว ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการต้องการกฎระเบียบแล้วก็หลักปฏิบัติที่เป็นเอกสารอย่างเป็นทางการ

นายอนุทิน

มาตรการก่อนหน้านี้ มีอะไรบ้าง

ผู้เดินทางต้องรับวัคซีนโควิดอย่างน้อย 2 เข็ม

หากประเทศต้นทางมีเงื่อนไขผลตรวจ RT-PCR เป็นลบก่อนกลับ ต้องซื้อประกันสุขภาพที่ครอบคลุมการตรวจรักษาโรคโควิด-19

หากมีอาการทางเดินหายใจให้เลื่อนเดินทาง

แนะนำให้ผู้เดินทางป้องกันตนเองตลอดระยะเวลาที่อยู่ในประเทศ เช่น สวมหน้ากากเมื่ออยู่ในพื้นที่สาธารณะ/ขนส่งสาธารณะ ล้างมือบ่อย ๆ

หากมีอาการทางเดินหายใจ ให้ตรวจคัดกรองด้วย ATK และหากมีอาการป่วยรุนแรงขึ้นให้ไปตรวจรักษาที่สถานพยาบาล แนะนำให้พักในโรงแรม SHA+ สำหรับผู้ต้องการทำ RT-PCR ก่อนเดินทางกลับประเทศ

3 รัฐมนตรีต้อนรับ นทท. จีน เที่ยวบินแรก

เวลา 12.15 น. ของ 9 เดือนมกราคม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข พร้อมกับนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการคมนาคม
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการการท่องเที่ยวรวมทั้งกีฬา จะให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวจากสาธารณประชาชนจีน
ซึ่งเดินทางมาเมืองไทยที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หลังทางการจีนทยอยเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 8 เดือนมกราคม

สำหรับเที่ยวบินจากจีนที่รองนายกรัฐมนตรีและคณะจะให้การต้อนรับในคราวนี้ คือ เที่ยวบิน MF833 เดินทางมาจากเมืองเซี่ยเหมิน มีผู้โดยสารทั้งหมด 269 คน

ก่อนหน้านี้ นายอนุทินกล่าวว่า จากการประมาณการนักท่องเที่ยวจีนในไตรมาสแรกในเดือน เดือนมกราคม-มี.ค. 2566 มีประมาณ 3 แสนคน คิดเป็น 5% ของนักท่องเที่ยวทุกชาติรวมกัน

โดยคาดการณ์ถึงตัวเลขในแต่ละเดือน ได้แก่ เดือน เดือนมกราคม 60,000 คน ก.พ. 90,000 คน แล้วก็ มี.ค. 150,000 คน โดยจะเพิ่มขึ้นอย่างค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป เนื่องจากเดี๋ยวนี้ยังมีเที่ยวบินจำกัด มีระยะเวลาในการขอทำหนังสือเดินทางและก็การขอวีซ่า และก็รัฐบาลจีนยังไม่อนุญาตให้บริษัทนำเที่ยวนำกลุ่มทัวร์ออกนอกประเทศ ผู้เดินทางจะเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยตนเองแล้วก็เป็นกลุ่มนักเดินทางระดับบนที่มีกำลังซื้อ